apple stories
ขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้า: iPad ร่วมทีมกับ College Football
iPad Pro พร้อมชิป M4 ซึ่งมีกระจกจอภาพ Nano-texture ใหม่และรองรับ Apple Pencil Pro ผสานรวมเป็นหนึ่งเข้ากับการทำงานข้างสนามและนำความสามารถใหม่ๆ มาสู่โค้ชและผู้เล่น
ผู้คนกำลังรวมตัวกันอย่างสนุกสนานพร้อมเพลิดเพลินกับจัมบาลายาในถ้วยอาหาร และป้ายแบนเนอร์ Geaux Tigers กำลังปลิวรับลมเย็นที่นับว่าหาได้ยากในช่วงฤดูร้อนในหลุยเซียนา เหล่านักเรียน นักศึกษากำลังทยอยขึ้นแสดนด์ และอีกกลุ่มหนึ่งiPad Prosอยู่ในสนามแล้ว มันเป็นวันแข่งขันที่สำคัญที่ Baton Rouge
ถึงแม้ว่าความสนุกสนานก่อนเกมและอาหารสไตล์เคจุนจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ Tiger Stadium มายาวนาน แต่การมี iPad อยู่ข้างสนามเป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา NCAA เพิ่งอนุมัติกฎที่อนุญาตให้ทีม College Football สามารถมีแท็บเล็ตไว้ใช้งานได้สูงสุด 18 เครื่องทั้งบริเวณข้างสนาม ในห้องของโค้ช และในห้องล็อคเกอร์ระหว่างเกม ดังนั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากกฎใหม่นี้ ทั้ง 3 คอนเฟอเรนซ์ ซึ่งได้แก่ ACC, SEC และ Big Ten จึงเลือกใช้ iPad สำหรับวันแข่ง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอระหว่างเกมที่ถ่ายจากข้างสนามและเอนด์โซน รวมถึงฟีดถ่ายทอดทุกฟีด
"iPad Pro ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพ Nano-texture นั้นเหลือเชื่อมาก" Doug Aucoin ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิดีโอของ Louisiana State University กล่าว"ถ้าไม่มีกระจก Nano-texture บน iPad Pro ใหม่ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดูฟุตเทจอะไรในสนาม เพราะต้องเจอกับแสงสะท้อนจากแดด"
การต่อสู้กับธรรมชาติ โดยเฉพาะกับแสงสะท้อนนั้น เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ College Football ต่างเป็นกังวลในช่วงแรก เพราะต้องใช้เทคโนโลยีที่ต่างออกไป ซึ่งแม้แต่เทคโนโลยีที่ NFL ใช้เพื่อย้อนดูเกมข้างสนามก็ยังไม่ตอบโจทย์ โดยในระหว่างเกม NFL ทีมฟุตบอลจะดูได้แค่ภาพนิ่งเท่านั้นและไม่มีวิดีโอให้ดู แต่โชคดีที่กระจก Nano-texture ใหม่ของ iPad Pro สามารถรักษาคุณภาพของภาพและคอนทราสต์เอาไว้ได้โดยการทำให้เกิดการกระเจิงของแสงเพื่อลดแสงสะท้อน จึงเป็นโซลูชั่นที่เหมาะสมลงตัวสำหรับการดูวิดีโอกลางแจ้ง
Aucoin ซึ่งมีฉายาว่า "เจ้าพ่อแห่งวงการผู้ประสานงานวิดีโอ SEC" และได้รับเลือกให้มีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศสาขาภาพยนตร์และวิดีโอเกี่ยวกับกีฬาของ College Sports Video Association ในปี 2022 เป็นผู้ที่เห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีใน College Football มาโดยตลอด Doug เล่าย้อนความหลังให้ฟังว่าเมื่อตอนที่เขาเริ่มทำงานกับ LSU เมื่อปี 1997 ผู้ช่วยฝ่ายธุรการคนหนึ่งในออฟฟิศของทีมยังมีเครื่องพิมพ์ดีดบนโต๊ะอยู่เลย มาวันนี้เขากลายเป็นผู้ควบคุมดูแลระบบสำหรับวันแข่งขันที่ซับซ้อนล้ำสมัย ซึ่งใช้ iPad ควบคู่กับซอฟต์แวร์ด้านกีฬาเพื่อส่งภาพวิดีโอไปอยู่ในมือของโค้ชในไม่เวลากี่วินาทีหลังจากที่เล่นจบแต่ละเพลย์
บริษัท Catapult ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้านการวิเคราะห์ performance ทางด้านกีฬา เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ให้กับทุก ๆ ทีมใน SEC นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังบันทึกวิดีโอ แต่ละทีมจะมีผู้บันทึกวิดีโอของตัวเองที่บันทึกภาพอยู่ที่ end zone และเส้นขอบสนาม ซึ่งพวกเขาก็สามารถที่จะฟีดวิดีโอเพื่อถ่ายทอดบนจอได้เลย จากนั้นแต่ละทีมจะมีเจ้าหน้าที่คอยบันทึกข้อมูลการแข่งขัน ซึ่งหมายถึงการแท็กผู้เล่นกับรายละเอียดต่างๆ เช่น ดาวน์ ระยะ เกมรุก เกมรับ ช่วงของเกมเตะ และการวิ่งหรือการส่งบอล ซึ่งสามารถนำมาใช้วิเคราะห์ในภายหลังได้
"ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังแท็กผู้เล่น พวกเราในเบื้องหลังก็จะตัดต่อคลิปวิดีโอ ซิงค์วิดีโอให้ตรงกัน แล้วส่งวิดีโอทั้งชุดนั้นไปยัง iPad ของโค้ชที่อยู่ในห้องสื่อมวลชนและที่ข้างสนาม" Matt Bairos ซึ่งเป็น Chief Product Officer ของ Catapult กล่าว
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือโซลูชั่นวิดีโอระหว่างเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นในจังหวะต่อไปที่ลงสนามได้เลย
ACC และ Big Ten ทำงานร่วมกับบริษัทซอฟต์แวร์ชื่อ DVSport สำหรับการบันทึกวิดีโอการแข่งขัน ในการประชุมนี้ ช่างเทคนิคจะบันทึกการแข่งขัน และทีมเหย้าจะยิงจากมุมข้างสนามและ end zone
"ผลงานของ DVSport เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ทำงานร่วมกันจนกลายเป็นโซลูชั่นที่สามารถพลิกเกมได้เลย" Brian Lowe ซึ่งเป็นประธานบริษัทและ CEO ของ DVSport กล่าว "ความเท่าเทียม ความรวดเร็ว และความชัดเจนในรายละเอียดเป็นองค์ประกอบสำคัญของโซลูชั่นนี้ และ iPad Pro และ iPad Air รุ่นล่าสุดของ Apple ก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมในการมอบประสบการณ์ที่เรียบง่ายและสวยงามดูดีสำหรับผู้ใช้"
"การมี iPad อยู่ข้างสนามทำให้การโค้ชระหว่างเกมเห็นผลชัดเจนยิ่งกว่าเดิมมาก" Mike Saffell ซึ่งเป็นโค้ชตำแหน่งไทต์เอนด์ของ University of California, Berkeley กล่าว "การให้คำแนะนำแบบสดๆ ช่วยให้ผู้เล่นและโค้ชสามารถแก้เกมได้อย่างรวดเร็ว และยังทำให้เกมการแข่งขันสูสีกันยิ่งขึ้นด้วยเพราะต่างฝ่ายต่างสามารถแก้ปัญหาในวันแข่งได้ทั้งคู่"
Fernando Mendoza ซึ่งเป็นควอเตอร์แบ็คตัวจริงของ Cal เห็นด้วยกับเรื่องนี้ "ก่อนหน้านี้ มีหลายอย่างมากที่เราต้องรอจนจบเกมถึงได้เห็น ดังนั้นการมีคนมาโค้ชที่ข้างสนามแบบนี้ได้จึงเป็นอะไรที่เยี่ยมมาก เวลาที่คุณอยู่ในสนาม ฟุตบอลก็ยังเป็นฟุตบอลเหมือนเดิม แต่เวลาที่คุณออกมาข้างสนาม ตอนนี้คุณสามารถคุยกับโค้ช ปรับนั่นเปลี่ยนนี่ รับคำแนะนำจากโค้ช แล้วกลับลงไปเล่นต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาผู้เล่นที่อายุยังน้อยได้อย่างมาก" Fernando กล่าว
ในส่วนของการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้นั้น Bairos รวมถึงโค้ชอีกหลายคน ชูจุดเด่นเรื่องความคุ้นเคยของ iPad ซึ่งทำให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่น "นอกจากจะใช้ง่ายแล้วยังมีอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคยด้วย จึงไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่" เขากล่าว "เราสามารถนำ iPad ที่มีซอฟต์แวร์ของเราไปอยู่ในมือโค้ช แล้วพวกเขาก็จัดการกันเองต่อได้เลย โค้ชเข้าใจวิธีใช้ iPad และพวกเขาก็เข้าใจว่าจะต้องแตะอะไรที่ตรงไหน"
Billy Glasscock ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีม Ole Miss ชี้ให้เห็นว่า Apple Pencil Pro เป็นอีกหนึ่งข้อดีของการใช้ iPad "หากเราจำเป็นต้องเรียนรู้เพลย์ตามการวางตำแหน่งผู้เล่นของอีกฝ่ายในระหว่างเกมจริงๆ แอป Catapult ก็มีฟังก์ชั่นไวท์บอร์ดที่เราสามารถใช้วาดด้วย Apple Pencil Pro หรือนิ้ว แถมยังสามารถวาดทับลงไปบนคลิปวิดีโอได้เลยด้วย" เขากล่าว
ส่วนการแจกจ่ายให้ผู้เล่นใช้งานนั้นก็ราบรื่นเช่นกัน เนื่องจากผู้เล่นมีความคุ้นเคยกับ iPad เป็นอย่างดี "พวกเขาโตมากับอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้ว" Alex Mirabal ซึ่งเป็นโค้ชออฟเฟนซีฟไลน์ของ University of Miami กล่าว
Mirabal พบว่า iPad มีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะในเกมสุดมันเมื่อเดือนตุลาคมที่พวกเขาต้องเจอกับทีม Hurricanes และโดนนำไปก่อนถึง 25 แต้มก่อนจะไล่ตามกลับมาเฉือนชนะไปเพียงแค่แต้มเดียว "ในเพลย์ที่ 6 ของเกม เราโดนแซ็ค หลังจบการเล่นชุดนั้น ผมสามารถแสดงให้ผู้เล่นออฟเฟนซีฟไลน์ดูว่า 'เห็นมั้ย ที่เราโดนแซ็คก็เพราะแบบนี้'" เขาเล่า "'ถ้าเราต้องเจอกับแผนนี้อีก เราต้องแก้สถานการณ์ด้วยวิธีนี้' และในช่วงต่อมาของการแข่งขัน พวกเขาก็ใช้เทคนิคเดิม และพวกเราก็อ่านเกมได้ บอกเลยว่ามีประโยชน์มากๆ" Mirabal กล่าวเสริมว่าผู้เล่นมักจะหยิบ iPad ไปดูกันเองเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะในช่วงพักครึ่ง
"'iPad อยู่ไหน iPad อยู่ไหน' นั่นแหละคืออย่างแรกที่เราทำหลังจากออกมาที่ข้างสนาม" Isaiah Horton ผู้เล่นตำแหน่งไวด์รีซีฟเวอร์ของ Miami กล่าว Horton ชี้ให้เห็นว่านอกเหนือจากการโค้ชจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว การมีอุปกรณ์อย่าง iPad ยังช่วยในเรื่องการประสานงานระหว่างผู้เล่นด้วย "เพราะเราสามารถดูภาพได้เลยแทนที่จะแค่พูดเฉยๆ ว่า 'นี่ ผมเห็นแบบนี้นะ แต่เอาเข้าจริงผมไม่รู้เลยว่าคุณเห็นอะไร เพราะควอเตอร์แบ็คมองแค่พื้นที่ครึ่งหนึ่งของสนาม ส่วนผมอยู่อีกฟากหนึ่งของสนาม'"
ในระยะยาว Horton มองว่าการใช้ iPad ระหว่างเกมจะยกระดับเกมการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นโดยการทำให้ผู้เล่นและโค้ชมีความเข้าใจตรงกัน Mendoza มองว่าเกมจะเน้นไปที่กลยุทธ์กันมากขึ้น ในขณะที่ Glasscock เห็นภาพการใช้งานที่ซับซ้อนกว่านั้นโดยการให้ทีมเตรียมแผนเสริมลงไปในสนามเพราะรู้ว่ามีโอกาสเล่นอะไรบางอย่างแค่ครั้งเดียวก่อนที่คู่แข่งจะแก้เกมได้ ส่วน Mirabel มองว่าเป็นการยกระดับเกมโดยรวมขึ้นไปอีกขั้น
"สิ่งสำคัญคือการที่พวกเราในฐานะคนเป็นโค้ชต้องไม่ต้องกลัวที่จะปล่อยให้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ" Mirabel กล่าว "แต่ผมไม่ใช่แค่คิดนะ เพราะผมรู้เลยว่าการมี iPad ใช้ที่ข้างสนามส่งผลดีต่อเกมการแข่งขันมากๆ คงไม่มีโค้ชคนไหนในอเมริกาที่ออกมาบอกว่าเรื่องนี้ส่งผลเสีย"
สำหรับ Aucoin แล้ว การได้เห็น iPad สร้างความแตกต่างที่ข้างสนามด้วยตัวเองมีเรื่องราวเบื้องหลังที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น Erby Aucoin คุณพ่อของเขา ซึ่งกลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แบบเต็มเวลาคนแรกของ NFL เมื่อ New Orleans Saints ว่าจ้างเขาในปี 1967 โดยจะเรียกว่า Erby เป็นผู้บุกเบิกการย้อนดูภาพระหว่างเกมก็ได้ เพราะตอนนั้นเขาคิดค้นระบบที่เริ่มด้วยการถ่ายภาพโพลารอยด์จากห้องด้านบนก่อนจะส่งภาพนั้นลงไปตามเส้นลวดที่ขึงไว้เพื่อให้ข้างสนามได้ดู
"ผมเริ่มจากกล้องโพลารอยด์ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน...มาวันนี้เราวิวัฒนาการมาถึง iPad ที่สามารถดูวิดีโอระหว่างเกมได้แบบเต็มตา" Aucoin กล่าว "คุณอาจไม่รู้ว่าคุณพ่อของผมเป็นคนแรกที่เริ่มทำอะไรแบบนี้ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน มันเลยเป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจสำหรับผมที่ได้เห็นวิวัฒนาการของสิ่งนี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม"
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้