MacBook Pro ใหม่ของ Apple มาพร้อมชิปตระกูล M4 ที่ทรงพลังเหลือล้น

Media

• เนื้อหาของบทความนี้

  30 ตุลาคม 2567

  ข่าวประชาสัมพันธ์

  MacBook Pro ใหม่ของ Apple มาพร้อมชิปตระกูล M4 ที่ทรงพลังเหลือล้น

  ด้วยกล้อง 12MP Center Stage ที่เหนือชั้น, Thunderbolt 5 บนชิป M4 Pro และ M4 Max รวมถึงตัวเลือกจอภาพ Nano-texture ใหม่ล่าสุด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Pro มากความสามารถยิ่งขึ้น และโปรสมชื่อยิ่งกว่าเดิม

  คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple เผยโฉม MacBook Pro ใหม่ที่มีชิปตระกูล M4 ทั้ง M4, M4 Pro และ M4 Max เป็นขุมพลังขับเคลื่อนประสิทธิภาพให้เร็วยิ่งขึ้นและเสริมความสามารถให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก และ MacBook Pro ใหม่ยังสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่จะพลิกโฉมวิธีการทำงาน การสื่อสาร และการถ่ายทอดความเป็นตัวเองของผู้ใช้โดยที่ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวให้กับคุณ วันนี้ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว มาในสีดำสเปซแบล็คและสีเงิน พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เร็วสุดขั้วของชิป M4 และพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 3 พอร์ต โดยมีหน่วยความจำเริ่มต้นที่ 16GB ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท ในขณะที่รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M4 Pro และ M4 Max มี Thunderbolt 5 ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นและความสามารถในการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกจอภาพ Nano-texture ใหม่ล่าสุด และความสว่างสูงสุด 1,000 นิตสำหรับคอนเทนต์ SDR รวมถึงกล้อง 12MP Center Stage สุดล้ำ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac สูงสุดถึง 24 ชั่วโมง¹ สามารถตรวจสอบวันพร้อมวางจำหน่าย MacBook Pro ได้ภายหลัง

  "MacBook Pro เป็นเครื่องมือสุดทรงพลังที่ผู้ใช้งานหลายล้ายคนใช้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุด และวันนี้เรายกระดับ MacBook Pro ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก" John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว "ด้วยชิปตระกูล M4 ที่ทรงพลัง และอัดแน่นด้วยคุณสมบัติระดับโปรอย่าง Thunderbolt 5, กล้อง 12MP Center Stage สุดล้ำ, ตัวเลือกจอภาพ Nano-texture ใหม่ล่าสุด และยังสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Pro ยังคงเป็นแล็ปท็อประดับโปรที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย"

  อัดฉีดพลังแรงโดยชิปตระกูล M4

  ชิปตระกูล M4 ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 เป็นชิปที่ล้ำหน้าที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ชิปตระกูล M4 มีประสิทธิภาพ CPU แบบเธรดเดียวในระดับปรากฏการณ์ด้วยคอร์ CPU ที่เร็วที่สุดในโลก² และยังมีประสิทธิภาพ CPU แบบหลายเธรดที่น่าทึ่งสำหรับเวิร์กโหลดที่ประมวลผลหนักๆ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบใน CPU, GPU ที่ล้ำสมัย และ Neural Engine ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วยแล้ว บอกได้เลยว่า Apple Silicon นั้นสร้างมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นสำหรับ AI อย่างแท้จริง และชิปแต่ละตัวยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อบวกกับหน่วยความจำแบบรวมที่เร็วขึ้นแล้ว จึงช่วยให้โมเดลการเรียนรู้ภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อื่นๆ ทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมของชิปตระกูล M4 ยังทำให้ผู้ใช้มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสิ่งที่ผู้ใช้ทำได้ด้วยการชาร์จครั้งเดียว

  MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M4 ใหม่

  MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M4 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการ นักเรียนนักศึกษา ครีเอเตอร์ หรือใครก็ตามที่อยากทำในสิ่งที่ตนเองรัก เพราะ MacBook Pro ใหม่มาพร้อม CPU แบบ 10-core ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 6 คอร์ รวมถึง GPU แบบ 10-core ที่เร็วขึ้น และมีสถาปัตยกรรมด้านกราฟิกที่ล้ำหน้าที่สุด ทั้งยังมีหน่วยความจำแบบรวมขนาดเริ่มต้นที่ 16GB เป็นมาตรฐาน และรองรับสูงสุด 32GB พร้อมแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 120GB/s ทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Pro ที่มาพร้อมชิป M4 เร็วกว่า MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 สูงสุด 1.8 เท่า สำหรับงานอย่างการปรับแต่งรูปภาพระดับกิกะพิกเซล ในขณะที่เวิร์กโหลดหนักๆ อย่างการเรนเดอร์ฉากที่ซับซ้อนใน Blender เร็วขึ้นสูงสุด 3.4 เท่า¹ และยังมี Neural Engine ที่ทรงพลังกว่าในชิป M1 เกิน 3 เท่า จึงเหมาะสมลงตัวสำหรับ Apple Intelligence และเวิร์กโหลดอื่นๆ ในด้าน AI นอกจากนี้รุ่นที่ใช้ชิป M4 ยังรองรับจอภาพภายนอกความละเอียดสูง 2 จอ นอกเหนือจากจอภาพในตัว และวันนี้มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 3 พอร์ต เพื่อให้ผู้ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดที่มีได้

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 มีประสิทธิภาพดังนี้¹

  • การประมวลผลภาพใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 7 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i7 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1

  • การเรนเดอร์ 3D ใน Blender เร็วขึ้นสูงสุด 10.9 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i7 และเร็วขึ้นสูงสุด 3.4 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1

  • การทำ Scene Edit Detection ใน Adobe Premier Pro เร็วขึ้นสูงสุด 9.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i7 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.7 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Pro: สุดยอดขุมพลังระดับโปร

  สำหรับนักวิจัย นักพัฒนา วิศวกร ครีเอทีฟมืออาชีพ หรือใครก็ตามที่ต้องการประสิทธิภาพที่เร็วยิ่งขึ้นสำหรับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องประมวลผลหนักขึ้น MacBook Pro พร้อมชิป M4 Pro ก็มาพร้อมประสิทธิภาพที่พุ่งแรงขึ้นอีกเยอะ ชิป M Pro มี CPU แบบ 14-core ที่ทรงพลัง ซึ่งประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 10 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ จึงมีประสิทธิภาพแบบหลายคอร์ที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด รวมถึง GPU แบบ 20-core ที่ทรงพลังกว่าชิป M4 ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ชิป M4 Pro ยังทำให้ MacBook Pro ใหม่มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงขึ้นอีกถึง 75% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า หรือสูงกว่าชิป AI PC ไหนๆ ถึง 2 เท่า³ MacBook Pro ใหม่พร้อมชิป M4 Pro เร็วกว่ารุ่นที่มาพร้อมชิป M1 Pro สูงสุด 3 เท่า จึงสามารถเร่งความเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์อย่างการทำแผนที่ภูมิศาสตร์ งานวิศวกรรมโครงสร้าง และการสร้างแบบจำลองข้อมูล¹

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Pro มีประสิทธิภาพดังนี้¹

  • ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ฉากด้วย Maxon Redshift เร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro

  • การจำลองระบบพลวัต (dynamical systems) ใน MathWorks MATLAB เร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro

  • การแปลงข้อมูลลำดับเบสสำหรับการหาลำดับดีเอ็นเอใน Oxford Nanopore MinKNOW เร็วขึ้นสูงสุด 23.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Pro

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Max: ที่สุดของประสิทธิภาพระดับโปร

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Max เสริมศักยภาพให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับโปรเจ็กต์ที่ก่อนหน้านี้ทำได้แค่บนเดสก์ท็อปเท่านั้น และออกแบบมาสำหรับมือโปร เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, ศิลปิน 3D และนักแต่งเพลง ซึ่งต้องการขยายขีดจำกัดของเวิร์กโฟลว์ไปใ้ห้สุด ชิป M4 Max มี CPU สูงสุดแบบ 16-core, GPU สูงสุดแบบ 40-core, แบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวมที่สูงเกินครึ่งเทราไบต์ต่อวินาที และ Neural Engine ที่เร็วขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับชิป M1 Max ทำให้การรันโมเดล AI บนอุปกรณ์รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย และเมื่อมีชิป M4 Max แล้ว MacBook Pro จึงมีประสิทธิภาพเร็วกว่าชิป M1 Max สูงสุด 3.5 เท่า และสามารถลุยเวิร์กโหลดหนักๆ ด้านการสร้างสรรค์อย่างการทำเอฟเฟ็กต์ภาพ, แอนิเมชั่น 3D และแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ได้สบาย¹ นอกจากนี้ยังรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 128GB ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถโต้ตอบกับ LLM ที่มีค่าตัวแปรเกือบ 200,000 ล้านค่าได้อย่างง่ายดาย และด้วยมีเดียเอนจิ้นที่ทรงพลังในชิป M4 Max ซึ่งมีตัวเร่งความเร็ว ProRes สองตัว ทำให้ MacBook Pro มีประสิทธิภาพโดดเด่นน่าทึ่งแม้จะต้องนำวิดีโอ ProRes ระดับ 4K120 ที่ถ่ายด้วย iPhone 16 Pro ใหม่มาตัดต่อใน Final Cut Pro

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Max มีประสิทธิภาพดังนี้¹

  • ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ฉากด้วย Maxon Redshift เร็วขึ้นสูงสุด 7.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max

  • ประสิทธิภาพการสร้างโปรเจ็กต์เมื่อคอมไพล์โค้ดใน Xcode เร็วขึ้นสูงสุด 4.6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max

  • ประสิทธิภาพการประมวลผลวิดีโอใน Topaz Video AI เร็วขึ้นสูงสุด 30.8 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว พร้อมชิป M1 Max

  จอภาพ Liquid Retina XDR ระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม วันนี้ดียิ่งกว่าเดิม

  MacBook Pro ใหม่มาพร้อมตัวเลือกจอภาพ Nano-texture แบบใหม่หมดที่ลดแสงสะท้อนและภาพสะท้อนรบกวนสายตาลงได้มาก และในสภาพแสงที่สว่าง MacBook Pro ใหม่ยังสามารถแสดงคอนเทนต์ SDR ที่ความสว่างสุงสุด 1,000 นิต และยังคงแสดงคอนเทนต์ HDR ที่ความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดสูงถึง 1,600 นิต ซึ่งทั้งหมดนี้จะพลิกโฉมประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งไปอย่างสิ้นเชิง

  กล้อง 12MP Center Stage ใหม่

  MacBook Pro มาพร้อมกล้อง 12MP Center Stage ใหม่จะที่ยกระดับคุณภาพวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นในสภาพแสงที่มีความท้าทาย และทำให้วิดีโอคอลมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย Center Stage ซึ่งจะจัดให้ผู้ใช้อยู่กลางเฟรมเสมอถึงแม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวไปรอบๆ และกล้องใหม่ยังรองรับ Desk View หรือมุมมองบนโต๊ะทำงาน ซึ่งจะเพิ่มมิติใหม่ให้กับวิดีโอคอล และยังมีไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ พร้อมด้วยระบบเสียง 6 ลำโพงสุดล้ำที่รองรับเสียงเชิงมิติพื้นที่ MacBook Pro จึงสามารถมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่เต็มอิ่มสมจริงขั้นสุด ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ในแบบ Dolby Atmos

  Thunderbolt 5 มาอยู่บน Mac แล้ว

  MacBook Pro พร้อมชิป M4 Pro และ M4 Max มีพอร์ต Thunderbolt 5 ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่า 2 เท่า เป็นสูงสุด 120Gb/s จึงใช้งานกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก ชุดอุปกรณ์ต่อขยาย รวมถึงโซลูชั่นด้าน Docking และ Hub ได้เร็วยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น แค่ต่อสายเส้นเดียว มือโปรอย่างโปรดิวเซอร์ที่สร้างสรรค์งานเพลงก็สามารถใช้งานอุปกรณ์ทั้งสตูดิโอได้อย่างเต็มที่ และ MacBook Pro ทุกรุ่นยังมีพอร์ต HDMI ที่รองรับความละเอียด 8K, ช่องใส่การ์ด SDXC, พอร์ต MagSafe 3 สำหรับการชาร์จ และช่องต่อหูฟัง รวมถึงการรองรับ Wi-Fi6E และ Bluetooth 5.3

  สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence

  Apple Intelligence พา Mac ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการนำระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลมาสู่คอมพิวเตอร์ส่วนตัว ซึ่ง Apple Intelligence นั้นได้ผสานรวมเจเนอเรทีฟโมเดลที่ทรงพลังเข้ากับการปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยอาศัยขุมพลังของ Apple Silicon และ Neural Engine เพื่อปลดล็อควิธีใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้ในการทำงาน ติดต่อสื่อสาร และถ่ายทอดความเป็นตัวเองบน Mac ซึ่ง Apple Intelligence ทำทั้งหมดนี้ได้โดยยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน และพร้อมให้ใช้งานในภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา (U.S. English) โดยมาพร้อมกับ macOS Sequoia 15.1 ซึ่งมีการประมวลผลบนอุปกรณ์เป็นหัวใจสำคัญ แต่ถ้าเป็นงานที่ซับซ้อนมากขึ้น ก็ยังมีการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว (Private Cloud Compute) ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงโมเดลขนาดใหญ่ยิ่งกว่าบนเซิฟเวอร์ของ Apple พร้อมให้การปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ

  ประสบการณ์ที่ยากจะหาใครเทียบด้วย macOS Sequoia

  macOS Sequoia เติมเต็มประสบการณ์การใช้งาน MacBook Pro ใหม่อย่างสมบูรณ์แบบด้วยคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นมากมาย อย่างการสะท้อนหน้าจอ iPhone ที่ให้ผู้ใช้โต้ตอบกับ iPhone, แอปบน iPhone และการแจ้งเตือนได้โดยตรงผ่านระบบไร้สายจากบน Mac⁴ และวันนี้เบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง Safari⁵ ก็มาพร้อม "ไฮไลท์" ซึ่งจะดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากเว็บไซต์ขึ้นมาแสดงอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยตัวอ่านที่ออกแบบใหม่และฉลาดยิ่งขึ้น ซึ่งจะแสดงสารบัญและการสรุปในภาพรวม รวมถึงหน้าต่างดูวิดีโอใหม่สำหรับการดูวิดีโอโดยไม่มีอะไรกวนใจ และยังมี Distraction Control หรือ "การควบคุมการรบกวน" ที่ให้ผู้ใช้ซ่อนสิ่งต่างๆ บนเว็บเพจที่รู้สึกว่ารบกวนการท่องเว็บ ในขณะที่การเล่นเกมก็เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติอย่าง Personalized Spatial Audio หรือ "ระบบเสียงหลากมิติรายบุคคล" และโหมดเกมที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงเกมที่น่าตื่นเต้นหลายแนว ซึ่งรวมทั้ง Assassin’s Creed Shadows ที่กำลังจะเปิดให้เล่นเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังสามารถเรียงต่อหน้าต่างได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ทำงานของผู้ใช้มีระเบียบอยู่เสมอโดยการจัดวางหน้าต่างในแบบที่ตัวเองถนัดที่สุด ยิ่งกว่านั้นยังมีแอปรหัสผ่านแบบใหม่หมดที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงรหัสผ่าน พาสคีย์ และข้อมูลประจำตัวอื่นๆ โดยทั้งหมดจัดเก็บรวมอยู่ในที่เดียว และผู้ใช้สามารถใส่พื้นหลังสวยๆ ที่มีมาให้สำหรับวิดีโอคอล ซึ่งมีทั้งการไล่เฉดสีแบบต่างๆ และภาพพื้นหลังของระบบ หรือจะอัปโหลดของตัวเองก็ได้

  เวลาที่ใช่สำหรับการอัปเกรดหรือเปลี่ยนมาใช้ Mac

  ผู้ใช้ที่อัปเกรดจะได้สัมผัสกับอะไรหลายๆ อย่างที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel รวมถึงคุณสมบัติที่น่าทึ่งของ Apple Intelligence โดยเมื่อเทียบกับ MacBook Pro รุ่นที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel แล้ว MacBook Pro ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นถึงเกือบ 10 เท่า สำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI¹ และเร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่าสำหรับเวิร์กโหลดที่เน้นกราฟิกหนักๆ⁶ นอกจากนี้ผู้ใช้ที่อัปเกรดยังสามารถใช้งานได้นานขึ้นอีกสูงสุด 14 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมงบน MacBook Pro ใหม่ ซึ่งเมื่อรวมกับจอภาพ Liquid Retina XDR, กล้อง 12MP Center Stage ใหม่, ระบบเสียง 6 ลำโพงที่เต็มอิ่มสมจริง, ประสบการณ์ที่ยากจะหาใครเทียบของ macOS Sequoia และอีกมากมายแล้ว จึงไม่มีเวลาไหนจะเหมาะไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับการอัปเกรดหรือเปลี่ยนมาใช้ MacBook Pro

  MacBook Air: แล็ปท็อปยอดนิยมของโลก วันนี้มาพร้อมหน่วยความจำเริ่มต้น 16GB

  MacBook Air เป็นแล็ปท็อปยอดนิยมของโลก และดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อมี Apple Intelligence โดยวันนี้รุ่นที่มาพร้อมชิป M2 และ M3 จะมีหน่วยความจำเริ่มต้นเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 16GB ในราคาเริ่มต้นเท่าเดิมเพียง 34,900 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับแล็ปท็อปที่ขายดีที่สุดในโลก

  ดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

  MacBook Pro ใหม่สร้างมาให้ใช้งานได้ยาวนานและทนทานเหลือเชื่อ โดยสร้างจากโลหะผสมแบบเฉพาะที่ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง อีกทั้งยังใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงการใช้ตะกั่วบัดกรี ทองคำสำหรับเคลือบ และทองแดงรีไซเคิล 100% ในแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น ในขณะที่บรรจุภัณฑ์ของ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว วันนี้ใช้เยื่อไม้ทั้งหมดเหมือนกับของ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ซึ่งช่วยให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ภายในปี 2025 เข้าไปอีกขั้น

  วันนี้ Apple มีความเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับการดำเนินงานในระดับองค์กรทั่วโลก และเรายังวางแผนที่จะทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของเรามีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย Apple 2030 ที่เรามุ่งมั่นตั้งใจ

  ราคาและการวางจำหน่าย

  • ลูกค้าสามารถตรวจสอบวันพร้อมวางจำหน่าย MacBook Pro ได้ภายหลังผ่านทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store

  • MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M4 ราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 51,400 บาท, MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว พร้อมชิป M4 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 64,650 บาท และ MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 89,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 82,900 บาท โดยทุกรุ่นมีให้เลือกทั้งสีดำสเปซแบล็คและสีเงิน

  • ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม รวมถึงจอภาพ Nano-texture และตัวเลือกในการปรับแต่งตามสั่งได้ที่ apple.com/th/mac

  • MacBook Air พร้อมชิป M2 และ M3 มีหน่วยความจำแบบรวมขนาด 16GB เป็นมาตรฐาน และมีให้เลือกทั้งสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท และราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 31,400 บาท

  • อุปกรณ์เสริมใหม่ที่มาพร้อม USB-C ซึ่งมีทั้ง Magic Keyboard (3,190 บาท), Magic Keyboard พร้อม Touch ID (4,890 บาท), Magic Keyboard พร้อม Touch ID และปุ่มตัวเลข (5,890 บาท), Magic Trackpad (4,190 บาท), Magic Mouse (2,490บาท) และสาย Thunderbolt 5 Pro (2,490 บาท) โดยสามารถตรวจสอบวันพร้อมวางจำหน่ายได้ภายหลังที่ apple.com/th/store

  • Apple Intelligence พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ Mac พร้อมชิป M1 และใหม่กว่า และสามารถใช้งานได้ในภูมิภาคส่วนใหญ่ทั่วโลกเมื่อตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา (U.S. English) โดยคุณสมบัติชุดแรกจะพร้อมให้ใช้งานในรุ่นเบต้าและมาพร้อมกับ macOS Sequoia 15.1 ขณะที่อีกหลายคุณสมบัติจะพร้อมให้ใช้งานในเดือนต่อๆ ไป

  • Apple Intelligence กำลังเร่งทยอยเพิ่มการรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม โดยในเดือนธันวาคม Apple Intelligence จะเพิ่มการรองรับภาษาอังกฤษท้องถิ่นในออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร และในเดือนเมษายนจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมโดยจะมีการเพิ่มภาษาที่รองรับตลอดทั้งปี และจะทยอยรองรับภาษาจีน, อังกฤษ (อินเดีย), อังกฤษ (สิงคโปร์), ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, โปรตุเกส, สเปน, เวียดนาม และภาษาอื่นๆ

  • บริการ Apple Trade In ให้ลูกค้านำคอมพิวเตอร์เครื่องปัจจุบันมาแลกเป็นเครดิตสำหรับการซื้อ Mac เครื่องใหม่ และลูกค้าสามารถตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ได้ที่ apple.com/th/shop/trade-in

  • AppleCare+ สำหรับ Mac มอบบริการและความช่วยเหลือให้กับผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง ความคุ้มครองการให้บริการด้านแบตเตอรี่ และสิทธิพิเศษในการรับบริการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่รู้จัก Mac ของคุณดีที่สุด

  • ลูกค้าทุกคนที่ซื้อจาก Apple Retail โดยตรงสามารถรับบริการ Personal Setup โดยในเซสชั่นออนไลน์พร้อมคำแนะนำเหล่านี้ Specialist สามารถแนะนำการตั้งค่าให้กับลูกค้า หรือเน้นไปที่คุณสมบัติที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้อุปกรณ์เครื่องใหม่ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งานอุปกรณ์ใหม่ด้วยเซสชั่น Today at Apple ที่ Apple Store สาขาใกล้บ้าน

  เกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 วันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, AirPods, Apple Watch และ Apple Vision Pro แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้ง 6 แพลตฟอร์มของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ทั้งหมด พร้อมเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนด้วยบริการที่ก้าวล้ำอย่าง App Store, Apple Music, Apple Pay, iCloud และ Apple TV+ และพนักงานของ Apple มากกว่า 150,000 คน ต่างก็ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และทำให้โลกใบนี้ดียิ่งขึ้นในทุกวัน

  1. Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2024 ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งานและการกำหนดค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/macbook-pro
  2. Apple ทำการทดสอบในเดือนตุลาคม 2024 โดยใช้ระบบของคู่แข่งรุ่นวางจำหน่ายและระบบวัดที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมหลายระบบ
  3. อ้างอิงจากข้อมูลทางเทคนิคของชิปคู่แข่งที่วางจำหน่าย ซึ่งเผยแพร่ ณ เดือนตุลาคม 2024
  4. ใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ Mac ที่มี Apple Silicon และคอมพิวเตอร์ Mac ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel พร้อมชิป T2 Security, iPhone และ Mac ของผู้ใช้ต้องลงชื่อเข้าด้วยบัญชี Apple เดียวกันโดยใช้การเข้าสู่บัญชี Apple แบบสองขั้นตอน, iPhone และ Mac ต้องอยู่ใกล้กันและเปิดทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi ในขณะที่ Mac จะต้องไม่ใช้ AirPlay หรือ Sidecar อยู่ คุณสมบัติบางอย่างของ iPhone (เช่น กล้องและไมโครโฟน) ไม่สามารถใช้งานได้กับการสะท้อนหน้าจอ iPhone
  5. Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2024 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/safari
  6. เปรียบเทียบผลลัพธ์กับระบบของ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้าที่มี Intel Core i7 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.7GHz พร้อม Intel Iris Plus Graphics 645, RAM ขนาด 16GB และ SSD ความจุ 2TB

  สำหรับสื่อมวลชน

  ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

  media.thailand@apple.com

  คัดลอกข้อความ

• รูปภาพในบทความ

  ดาวน์โหลดรูปภาพทั้งหมด