อัพเดท
7 พฤศจิกายน 2566
Apple อัดฉีดพลังแรงให้กับ Logic Pro ด้วยเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับการสร้างสรรค์เสียงเพลงบน Mac และ iPad
คุณสมบัติที่เพิ่มมามีตั้งแต่ Mastering Assistant ใหม่, การบันทึกเสียงแบบ 32 บิต, Sample Alchemy และ Beat Breaker บน Mac จนถึงโหมด Quick Sampler Recorder บน iPad และอื่นๆ อีกมากมาย
วันนี้ Apple อัปเดต Logic Pro ด้วยเครื่องมือใหม่ๆ อันทรงพลังที่มีให้ใช้งานทั้งบน Mac และ iPad อย่าง Mastering Assistant ใหม่พร้อมชุดเครื่องมือออกแบบเสียงระดับมืออาชีพที่ใช้ง่าย ช่วยให้นักดนตรีสามารถส่งมิกซ์ที่พร้อมนำไปปล่อยได้เร็วยิ่งกว่าที่เคย และวันนี้ Logic Pro สำหรับ Mac ยังมีเครื่องมือปรุงแต่งตัวอย่างเสียงที่เหนือชั้นอย่าง Sample Alchemy รวมถึงความสามารถในการ Reshape และ Reshuffle เสียงให้ฉีกไปจากเดิมด้วย Beat Breaker ในขณะที่ Logic Pro สำหรับ iPad ก็มีคุณสมบัติที่ทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างโหมด Quick Sampler Recorder ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บันทึก "เสียงที่พบ" ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ไมโครโฟนในตัว iPad และนำมาสร้างเป็นเครื่องดนตรีแบบเฉพาะที่พร้อมเล่นได้ทันที ส่วนโปรดิวเซอร์และบีทเมกเกอร์ที่มีตัวอย่างเสียงของตนเองอยู่แล้วก็สามารถสร้างชุดกลองหรือเครื่องดนตรีแบบเฉพาะได้โดยใช้คุณสมบัติการทำงานแบบมัลติทาสก์อย่าง Split View และ Stage Manager และผู้ใช้ยังสามารถทำงานสลับไปมาระหว่าง Mac และ iPad ได้ง่ายด้วยการส่งโปรเจ็กต์ไปกลับแบบสองทาง ทีนี้ไม่ว่าจะอยากทำเพลงขณะเดินทางหรือในสตูดิโอก็ไม่มีปัญหา
คุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับ Mac และ iPad
Mastering Assistant ช่วยให้คนทำเพลงมีวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการปรับแต่งขั้นสุดท้ายในแบบมืออาชีพเพื่อให้ได้มิกซ์ที่พร้อมนำไปปล่อยได้ทันที โดย Mastering Assistant สามารถวิเคราะห์เสียงในทันทีที่มิกซ์เสร็จ แล้วปรับแต่งรายละเอียดของเสียงให้เนี้ยบ อย่างการปรับไดนามิก ความสมดุลของความถี่ ลักษณะเฉพาะของของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิด และความดัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้การประมวลผลเบื้องต้นของ Mastering Assistant เป็นจุดเริ่มต้นก่อนปรับแต่งการตั้งค่าทีละส่วนอย่างละเอียดด้วยตัวควบคุมที่ใช้ง่ายจนได้เป็นมิกซ์ที่เสียงยอดเยี่ยมทั้งในรถและในคลับ
Logic Pro รองรับการบันทึกเสียงแบบ 32-bit Float เมื่อใช้กับอินเทอร์เฟซเสียงที่ใช้ร่วมกันได้ ซึ่งช่วยลดอาการ Clipping ในสัญญาณดิจิทัลที่เกิดขึ้นได้เมื่อบันทึกเสียงเครื่องดนตรีหรือการเล่นที่มีเสียงหนักเบาต่างกันมาก ส่วน 32-bit Float ช่วยให้สามารถนำการบันทึกเสียงที่มีเลเวลต่ำไปขยายเสียงได้ง่ายโดยไม่ทำให้ Noise Floor สูงขึ้น จึงได้เสียงที่มีคุณภาพระดับสตูดิโอและเพิ่มความยืดหยุ่นในช่วงโพสต์โปรดักชั่น
สิ่งที่เพิ่มมาใหม่ใน Logic Pro สำหรับ Mac
Sample Alchemy และ Beat Breaker ซึ่งเปิดตัวไปบน Logic Pro สำหรับ iPad ก่อนหน้านี้มาอยู่ใน Logic Pro สำหรับ Mac แล้ว เริ่มจาก Sample Alchemy ที่ให้ผู้ใช้แปลงหนึ่งตัวอย่างเสียงเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นได้จริงโดยใช้เทคนิคหลายแบบไม่ว่าจะเป็น Granular, Additive หรือ Spectral Analysis ทำให้วันนี้ศิลปินสามารถสร้าง Sound Bed, แพด, เอฟเฟ็กต์ และริทึมที่หลากหลายไม่ซ้ำใครเพื่อขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์
Beat Breaker ซึ่งเป็นปลั๊กอินแบบมัลติเอฟเฟ็กต์ ช่วยให้ศิลปินสามารถ Reshape และ Reshuffle เสียงให้ฉีกไปจากเดิมในแบบเรียลไทม์ รวมถึงการสไลซ์เสียง เรียบเรียงใหม่ และการใส่เอฟเฟ็กต์แบบสแครช โดยนักดนตรีสามารถปรับความเร็ว ทิศทาง โวลุ่ม และจำนวนการซ้ำของแต่ละสไลซ์เพื่อสร้างเป็นแพทเทิร์นซับซ้อนที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาขณะเล่น
วันนี้เมนู Tools ในส่วน Tracks และตัวแก้ไขแบบ Time-based มาพร้อมเครื่องมือ Slip และ Rotate ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายคอนเทนต์ไปมาภายในเสียงและพื้นที่ของเครื่องดนตรีซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ทำให้ขอบเขตของพื้นที่นั้นเปลี่ยนไป
การอัปเดต Logic Pro สำหรับ Mac ในวันนี้มาพร้อมแพ็คเสียงใหม่ 2 แพ็ค ได้แก่ แพ็คเสียง Hybrid Textures ที่มี 70 แพตช์ และ Apple Loops อีกกว่า 80 ลูปที่ใช้ Sample Alchemy ในขณะที่แพ็คเสียง Vox Melodics อัดแน่นไปด้วยวลีเนื้อร้อง, ท่อนฮุก, เสียงประสานแบบแยกเลเยอร์, FX และ One-shot มากกว่า 475 แบบ โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพ็คเสียงฟรีทั้งหมดของแอปได้ทาง Sound Library
สิ่งที่เพิ่มมาใหม่ใน Logic Pro สำหรับ iPad
ปลั๊กอิน Quick Sampler ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเครื่องดนตรีแบบ Sampler จากเสียงแทบทั้งหมดได้ ด้วยโหมด Recorder ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สร้างเครื่องดนตรีและชุดกลองโดยการอัดเสียงจากไมโครโฟนในตัวโดยตรง หรือจากอินพุตเสียงที่เชื่อมต่ออยู่ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างสรรค์เครื่องดนตรีได้แทบทุกที่
วันนี้ศิลปินสามารถสลับไปมาระหว่าง Logic Pro และแอปอื่นๆ อย่างเสียงบันทึกหรือแอปไฟล์โดยใช้ Split View และ Stage Manager โดยที่ Split View ช่วยให้ผู้ใช้เปิดสองแอปที่ต่างกันหรือสองหน้าต่างของแอปเดียวกันได้โดยการแบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วนที่ปรับขนาดได้ ในขณะที่ Stage Manager ช่วยให้ผู้ใช้ปรับขนาดหน้าต่าง ดูหลายหน้าต่างที่ซ้อนทับกันอยู่ในมุมมองเดียว หรือแตะเพื่อสลับไปมาระหว่างแอป และอีกมากมาย
ผู้ใช้สามารถหาเสียงที่ใช่ได้อย่างรวดเร็วใน Browser เพียงแค่ใช้นิ้วลากขึ้นหรือลงเพื่อลองฟังตัวอย่างเสียง ลูป หรือเครื่องดนตรีแบบต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเลือกแล้วลากตัวอย่างเสียงของตนเองจากแอปไฟล์มายัง Logic Pro เพื่อสร้างชุดกลองหรือเพิ่มสเต็มให้กับโปรเจ็กต์ได้ง่ายๆ
ส่วน Lessons ที่ได้รับความนิยมภายในแอป Logic Pro ก็มีบทเรียนใหม่ๆ ครอบคลุมหลายหัวข้อเรื่องอย่าง Mastering Assistant, Sample Alchemy, Beat Breaker, การทำจังหวะ, ระบบอัตโนมัติ, แพ็คเสียง และ Play Surfaces ในขณะที่แพ็คเสียง Hybrid Textures ก็มาอยู่บน Logic Pro สำหรับ iPad ด้วยเช่นกันเพื่อให้ศิลปินมีสารตั้งต้นใหม่ๆ ในการสำรวจขุมพลังและความล้ำลึกของ Sample Alchemy
ราคาและความพร้อมในการให้บริการ
- Logic Pro 10.8 พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตฟรีสำหรับผู้ใช้เดิม และ 6,990 บาท สำหรับผู้ใช้ใหม่ทาง Mac App Store โดย Logic Pro สำหรับ Mac ต้องใช้กับ macOS Ventura 13.5 หรือใหม่กว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/logic-pro
- Logic Pro สำหรับ iPad 1.1 พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตฟรีสำหรับผู้ใช้เดิม และมีให้ดาวน์โหลดทาง App Store ในราคา 199 บาท ต่อเดือน หรือ 1,990 บาท ต่อปี โดย Logic Pro สำหรับ iPad ต้องใช้กับ iPadOS 17 หรือใหม่กว่า และ iPad พร้อมชิป Apple A12 Bionic หรือใหม่กว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/logic-pro-for-ipad
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้