ณ วันอาทิตย์บ่ายๆ ที่ท้องฟ้าแจ่มใสในเดือนมีนาคม สนาม BMO Stadium ในลอสแองเจลิสส่องแสงระยิบระยับจากประกายน้ำที่รดพรมลงบนสนาม พร้อมเส้นแบ่งเขตที่เพิ่งทาสีใหม่ เมื่อทีมโปรดิวเซอร์ ผู้บรรยาย และเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคหลายสิบคนเตรียมพร้อมที่จะคิกออฟนัดป้องกันแชมป์ระหว่างแชมป์เก่าของ MLS อย่าง Los Angeles Football Club (LAFC) และ New England Revolution เสียงกลองก็ดังขึ้นจาก Christmas Tree Lane นอกสนามแข่ง
สมาชิกกลุ่ม 3252 Independent Supporters Union ของ LAFC ในชุดสีดำและสีทองพร้อมใจกันยืนร้องเพลงเชียร์ทีม LAFC ตลอด 90 นาทีกว่าๆ ตั้งแต่รายการก่อนเกมไปจนจบการแข่งขัน ก่อนที่ทีมจะคว้าชัยชนะ 4-0
Eddie Amuwa สมาชิกของกลุ่มผู้สนับสนุน Black Army 1850 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 3252 กล่าวว่า “เรามีความกระตือรือร้นในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของทีมในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมและชุมชนของสโมสรด้วย” “ไม่ว่าเราจะชนะหรือแพ้ เราจะส่งเสียงดังเสมอ เราทุ่มเทพลังงานและแสดงออกถึงความรักอย่างเต็มเปี่ยม เราทุกคนเป็นแค่แฟนบอลกลุ่มหนึ่งที่ตัดสินใจทุ่มเทแรงกายแรงใจมากขึ้นอีกหน่อย เพราะสโมสรแห่งนี้เป็นตัวแทนของเรา สิ่งที่คุณเห็นใน 3252 คือสิ่งที่คุณเห็นในลอสแองเจลิส นั่นคือวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อุดมคติที่แตกต่างกัน และวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน”
นี่คือหน้าตาของเหล่าแฟนๆ MLS จากทุกภูมิภาค กองทัพแฟนๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทั้งอเมริกาเหนือแสดงความภาคภูมิใจที่พวกเขามีต่อสโมสรและชุมชนของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Atlanta United FC และกลุ่มผู้สนับสนุน Faction ร่วมกับแฟนๆ 32,000 คนที่เข้ามาชมระหว่างที่ Golden Spike สีทองสูง 6 ฟุตถูกตอกลงบนชานชาลาทางรถไฟชั่วคราวก่อนเริ่มการแข่งขัน หรือ Timbers Army ที่ส่งเสียงโห่ร้องขณะที่ Timber Joey ผ่าเลื่อยไฟฟ้าลงบนท่อนซุงหลังจากมีการทำประตูในบ้านได้ทุกครั้ง หรือการฟื้นคืนชีพของเมืองแห่งฟุตบอลเมื่อ St. Louis City SC ขนานนามสนามกีฬาที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ว่า CITYPARK
“นี่คือเรื่องราวของ Major League Soccer การเติบโตอย่างเหลือเชื่อในทุกๆ ด้าน รวมถึงวัฒนธรรมของแฟนบอล” Seth Bacon รองประธานบริหารฝ่ายสื่อของ MLS กล่าว “สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจที่สุดคือการสร้างโอกาสให้กับวัฒนธรรมของผู้ที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอล ซึ่งช่วยให้เรากลายเป็นประเทศแห่งฟุตบอล”
ในการแข่งขัน LAFC ทุกนัด สมาชิกของ 3252 จะต้องลุกขึ้นยืนและโห่ร้องด้วยความภาคภูมิใจคลอไปกับเสียงกลองที่ดังก้องตลอดการแข่งขัน วัฒนธรรมของแฟนบอลทั่วทั้ง MLS มีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยพิธีการและประเพณีที่จัดตั้งขึ้นโดยชุมชนท้องถิ่นของแต่ละสโมสร ลองฟังบรรยากาศภายใน BMO Stadium ในแมตช์ระหว่าง LAFC กับ New England Revolution ในวันที่ 12 มีนาคม
การเปิดตัว MLS Season Pass บนแอป Apple TV สำหรับฤดูกาลนี้ทำให้นี้แฟนๆ ได้สัมผัสพลังแบบเดียวกับในสเตเดี้ยมทุกๆ สัปดาห์จากที่บ้าน ทั้งยังติดตามทั้ง 29 สโมสรในลีกได้จากโซฟาของตัวเอง และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ MLS ที่แต่ละสโมสรมีแพลตฟอร์มเป็นของตนเอง เพื่อนำเสนอโปรแกรมก่อนและหลังเกมแบบเข้มข้นและเจาะลึกจากคลับรูมของสโมสรโดยเฉพาะบน MLS Season Pass
“ฟุตบอลเป็นเรื่องของชนเผ่าเช่นเดียวกับกีฬาอื่นๆ และผู้คนต่างหลงใหลในสโมสรท้องถิ่นหรือสโมสรที่พวกเขาเติบโตมา” Bacon กล่าวต่อ “และที่ผ่านมา ไม่เคยมีแพลตฟอร์มหรือพาร์ทเนอร์ไหนๆ ที่นำเสนอเนื้อหาและไฮไลท์ที่น่าสนใจในรูปแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเลยมีคนเก่งๆ มากมายที่อยู่เบื้องหลังที่ได้รับโอกาสให้สร้างสรรค์คอนเทนต์อันน่าทึ่งสำหรับสโมสรของพวกเขาโดยเฉพาะ”
เรียกได้ว่าหมดยุคของการไม่ออกอากาศสด หรือเวลาเริ่มต้นและวันแข่งขันที่คาดเดาไม่ได้ไปแล้ว MLS Season Pass สร้างขึ้นโดย Apple และ MLS เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องต่อเนื่องให้กับแฟนๆ ในการรับชมสโมสรโปรดของพวกเขา บริการใหม่นี้นำเสนอวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 1080p มุมกล้องที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่ง รายการพิเศษก่อนและหลังการแข่งขันสำหรับทุกนัด และ MLS 360 รายการแบบ Whip-around ที่จะนำเสนอไฮไลท์ที่ดีที่สุดจากวันแข่งขันทั่วทั้งลีกให้แฟนๆ ได้ชมกันทุกสัปดาห์
“เรามีทีมงานที่รักฟุตบอลอย่างแท้จริงและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเกมฟุตบอลไปทั่วโลก” Kaylyn Kyle พิธีกรร่วมของ MLS 360 กล่าว “ไม่เคยมีรายการแบบ Whip-around ที่เหมือนกับ MLS 360 มาก่อน เพราะคุณสามารถรับชมได้ถึง 14 เกมพร้อมกัน ทั้งยังดูคะแนนและแอ็คชั่นสำคัญๆ ได้ทั้งหมด และแฟนๆ ก็เป็นส่วนที่ดีที่สุด เพราะพวกเขาจะแชร์ความคิดเห็นและช่วยเราปรับปรุงรายการทุกสัปดาห์ มันเป็นรายการที่รวดเร็วและมีข้อมูลมากมาย และไม่ได้เป็นเหมือน 'ทอล์คโชว์' แต่ประมาณว่า 'ไปดูกันเถอะว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง' ซึ่งทำให้แฟนๆ และพวกเราสนุกมาก”
ผู้ชมยังสามารถเลือกฟังวิทยุทีมเหย้าเพื่อฟังการถ่ายทอดเสียงและสลับไปมาระหว่างภาษาอังกฤษ สเปน และภาษาฝรั่งเศสสำหรับแมตช์แคนาดาทั้งหมดภายใน MLS Season Pass บนแอป Apple TV
“รูปแบบการนำเสนอแตกต่างจากที่เราเคยเห็นในอดีตมาก” Bacon กล่าวเสริม “การจำลองภาพและความรู้สึกของสิ่งที่คุณเห็นในสเตเดี้ยมนี้เป็นก้าวที่น่าทึ่งและมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเราได้บุคลากรที่เก่งที่สุดในวงการที่มุ่งเน้นที่จะทำให้สิ่งนี้เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนๆ ของเรา”
นักจัดรายการ Max Bretos และ Brian Dunseth บรรยายการแข่งขัน MLS มานานหลายทศวรรษ และทั้งคู่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่า MLS Season Pass จะขับเคลื่อนลีกนี้ไปสู่ระดับโลกอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนถึงฟุตบอลโลกปี 2026 ซึ่งจะมีสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
“เราเคยต้องต่อสู้เพื่อการมีตัวตนเสมอมา” Dunseth กล่าว “เราต้องต่อสู้กับคำบอกเล่าที่ว่า 'เฮ้ มันก็แค่ฟุตบอลนะ' รู้สึกเหมือนว่าตอนนี้เราเกือบจะอยู่ในพื้นที่ที่เป็นของเราแล้ว พื้นที่ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ และไม่ใช่แค่คุณภาพของความรู้สึกที่เหมือนว่าคุณอยู่ในสนามเท่านั้น มันคือคุณภาพโดยรวมของประสบการณ์ทั้งหมด”
Martin Zuniga ผู้บรรยายภาษาสเปน (ซ้าย) และ Rodolfo Landeros บรรยายในการแข่งขันระหว่าง LAFC กับ New England Revolution ทุกแมตช์ใน MLS Season Pass จะออกอากาศทั้งในภาษาอังกฤษและสเปน รวมถึงภาษาฝรั่งเศสสำหรับแมตช์ที่เล่นโดยสโมสรในแคนาดา ฟังคำบรรยายสดๆ ของทั้งคู่ในการแข่งขันระหว่าง LAFC และ New England Revolution ในวันที่ 12 มีนาคม
Apple เผยเบื้องหลังการทำงานของทีมผู้ผลิต MLS Season Pass ตั้งแต่ผู้บรรยายมากประสบการณ์ในบูธ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ควบคุมกล้องและทีมงานด้านเทคนิคที่ใช้เวทมนตร์ทั้งในและนอกสนาม ในเกมที่ LAFC เปิดบ้านต้อนรับ New England Revolution
หลังจาก 96 นาทีอันน่าตื่นเต้นจบลงเมื่อ LAFC ได้ประตูที่สี่ สโมสรก็กล่าวคำอำลาไปพร้อมๆ กับการเฉลิมฉลองของ LAFC และเสียงคำรามบนสเตเดี้ยมที่ดำเนินต่อไป พลังที่ส่งจากสเตเดี้ยมนั้นทำให้หัวใจของทุกคนเต้นโครมครามไม่หยุด ทั้งแฟนๆ ในสนามและแฟนๆ ที่ชมจากที่บ้าน และสำหรับ MLS Season Pass ผู้ชมยังได้ชมพิธีสุดท้ายหลังเกมจบเป็นของแถม เมื่อ Timothy Tillman กองกลางของ LAFC ตะโกนโต้ตอบกับแฟนๆ 3252 เพื่อส่งสัญญาณถึงชัยชนะ และการสร้างประสบการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองนั่นแหละคือจุดมุ่งหมายทั้งหมดของโปรดิวเซอร์ที่ถ่ายทอดแมทช์ดังกล่าว
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้