เปิดในหน้าต่างใหม่
ภาพวาดของหน้าร้านที่มีลูกค้าและธุรกิจขนาดเล็กโต้ตอบกันด้วยอุปกรณ์ Apple
ธุรกิจขนาดเล็ก 26 เมษายน 2566
จากจุดกำเนิดของไอเดียทางธุรกิจสุดสร้างสรรค์ผ่านขั้นตอนการวางแผน การเปิดตัว ไปจนถึงการเติบโตและการขยายตัว เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กต่างใช้ประโยชน์จากพลังของ Apple ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการในการจัดการกับการดำเนินงานของตนเองและการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าในทุกๆ วัน
ในลอสแองเจลิส แฟชั่นสตรีทแวร์แบรนด์ Kids of Immigrants ใช้ iPad และ Apple Pencil ในการทำให้แฟชั่นสีสันสดใสกลายเป็นจริงขึ้นมา และใช้ Mac ในการนำแฟชั่นเหล่านี้ออกสู่โลก ส่วนในย่าน San Francisco Bay Area ธุรกิจที่เดิมเป็นฟู้ดทรัคขนาดเล็กอย่าง Señor Sisig ซึ่งใช้ iPad ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ ก็ได้ขยายตัวเป็นร้านสตรีทฟู้ดอาหารพื้นถิ่นของฟิลิปปินส์ โดยใช้ Apple Business Essentials และกลุ่มอุปกรณ์ Apple และในย่านชานเมืองฟิลาเดลเฟีย Darianna Bridal & Tuxedo ก็ใช้ Tap to Pay บน iPhone เพื่อให้กระบวนการจ่ายเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น และลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น รวมถึงการใช้ Apple Business Connect เพื่อจัดการกับตัวตนของตนเองในระบบนิเวศของ Apple 
ต่อไปนี้ มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดกำเนิดที่นำผู้ก่อตั้งของแต่ละธุรกิจเดินไปบนเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์และบริการ Apple ที่ทุกคนใช้ในการขยายการดำเนินงานของตนเอง และเหตุการณ์สำคัญที่ให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะธุรกิจขนาดเล็กอย่างเช่นในทุกวันนี้

ดีไซน์อันมีชีวิตชีวากลายเป็นจริงได้ด้วย iPad และ Apple Pencil

การใช้ชีวิตอยู่ในย่าน Pico-Union ใจกลางลอสแองเจลิสได้กลายมาเป็นแรงผลักดันให้ Daniel Buezo และ Weleh Dennis ต้องการที่จะทำให้แบรนด์ Kids of Immigrants เป็นจริงขึ้นมา โดยทั้งคู่ได้ครุ่นคิดมาเป็นเวลาหลายปีเกี่ยวกับโปรเจ็กต์สร้างสรรค์ ที่จะเป็นการยกย่องรากเหง้าของการเป็นครอบครัวผู้อพยพ ซึ่งพ่อแม่ของ Dennis โยกย้ายมาจากไลบีเรีย ขณะที่ครอบครัวของ Buezo มาจากฮอนดูรัส และพวกเขาก็ไม่เคยขาดแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางละแวกชุมชนอันคึกคักและมีชีวิตชีวาเหล่านี้ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อทางประวัติศาสตร์ของชุมชนผู้อพยพประจำเมือง
"เราอยากบอกเล่าเรื่องราวของเรา" Buezo ให้อรรถาธิบายถึงแบรนด์แฟชั่นสตรีทแวร์ที่ทั้งสองได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2015 "การเติบโตขึ้นมาด้วยความสนใจในเรื่องสไตล์ แฟชั่น และสตรีทแวร์ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีใครที่เป็นตัวแทนของเรา และไม่มีใครที่มองเห็นเราอย่างจริงจัง สำหรับแบรนด์ Kids of Immigrants คุณค่าหลักของเราก็คือการเป็นตัวแทนและการเสริมศักยภาพ ซึ่งเรากำลังเจาะลึกลงในไปในตัวตนของเรา และแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ของเรา ในทุกสิ่งที่พวกท่านทำให้เรา"
ภาพถ่ายของผู้ก่อตั้งที่เป็นผู้อพยพ จากซ้ายไปขวา ผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินงาน Christian Gray, ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Daniel Buezo และผู้ร่วมก่อตั้ง Weleh Dennis
จากซ้ายไปขวา: ผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินงาน Christian Gray, ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Daniel Buezo และผู้ร่วมก่อตั้ง Weleh Dennis ของแบรนด์ Kids of Immigrants
จากแรกเริ่มที่มีอุปกรณ์เพียงแค่ iPhone และ MacBook Pro ของเพื่อน Buezo และ Dennis เริ่มต้นแบรนด์ Kids of Immigrants ด้วยการนำเอาเสื้อผ้าวินเทจจากร้านขายของมือสองมารีไซเคิลและออกแบบการใช้งานใหม่ รวมถึงใช้เพื่อนๆ ของตนเองมาช่วยกันทำหน้าที่เป็นนางแบบ ผู้อำนวยการ และช่างภาพของแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่ แล้วจากตรงนั้น พวกเขาก็ใช้ Apple Pencil และ iPad (รุ่นที่ 10) ในการออกแบบและเปิดตัวเสื้อผ้าสีสันสดใสพร้อมด้วยข้อความที่เน้นในเรื่องชุมชน ซึ่งทำให้พวกเขากลายมาเป็นที่รู้จักกันในทุกวันนี้ 
"สิ่งที่ปลดล็อคผมได้อย่างแท้จริงก็คือ การที่สามารถใช้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเอง และวาดภาพหรือสร้างภาพเคลื่อนไหวให้ไอเดียเหล่านั้นด้วย iPad ใน Adobe" Dennis กล่าว "ซึ่งทำให้กระบวนการสร้างสรรค์เป็นไปอย่างง่ายดายและไหลลื่น ถือเป็นสิ่งที่พลิกสถานการณ์อย่างแท้จริง"
เมื่อบริษัทเริ่มขยายตัว การดำเนินงานในแต่ละวันก็ขับเคลื่อนด้วย Mac mini ที่มี Studio Display และ MacBook Pro 
"Mac mini และ Studio Display ทำงานให้เราได้อย่างยอดเยี่ยมในสองด้านที่แตกต่างกันของธุรกิจของเรา นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์กับการออกแบบ และการขนส่งกับบริการคลังสินค้าที่พร้อมจัดส่ง" Christian Gray ผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินการของบริษัทกล่าว "ต้องขอบคุณเทคโนโลยีและการปรับปรุงต่างๆ ที่ Apple ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอผ่านการทำความเข้าใจในลูกค้าของตนเอง ทำให้เรามีเครื่องมือที่เป็นทางลัดซึ่งช่วยเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรับมือกับทุกอย่างที่เข้ามาได้ตลอดเวลา"

ธุรกิจเคลื่อนที่ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาด้วย Apple Business Essentials

ด้วยกลุ่มฟู้ดทรัคจำนวนสี่คันและอาคารร้านอาหารสามแห่งในย่าน San Francisco Bay Area ทั้ง Evan Kidera และ Gil Payumo ต่างก็กำลังมุ่งหน้าสู่ภารกิจในการทำให้ซีซิก (Sisig) อันเป็นอาหารสตรีทฟู้ดขึ้นชื่อในฟิลิปปินส์ซึ่งทำมาจากเนื้อหมูบด กลายมาเป็นที่นิยมกันทั่วไปในแบบเดียวกับเบอร์ริโต ทาโก นาโชส์ และมันฝรั่งทอด
ทั้งคู่ได้เปิดตัวธุรกิจของตนเอง Señor Sisig ด้วยฟู้ดทรัคเพียงคันเดียวในปี 2010 "ตอนนั้น เรารู้สึกจริงๆ ว่า ซีซิกสามารถเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของฟิลิปปินส์ซึ่งแพร่หลายไปทั่วโลกได้" Kidera กล่าว "แต่เราต้องเริ่มจากการทำให้อาหารนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยและกล้าที่จะลอง ความหวังก็คือซีซิกจะเป็นเหมือนแคลิฟอร์เนียโรลหรือเบอร์ริโต ที่ช่วยเปิดมิติใหม่ให้กับทุกสิ่ง"
ภาพถ่ายของ Evan Kidera ซีอีโอของ Señor Sisig (ซ้าย) และรองประธาน Gil Payumo
Evan Kidera (ซ้าย) เป็นซีอีโอของ Señor Sisig ส่วน Gil Payumo ทำหน้าที่เป็นรองประธานของบริษัทและเชฟ
ฝูงชนเริ่มยอมรับและดื่มด่ำไปกับรสชาติ แล้วธุรกิจก็เริ่มเติบโตขึ้นมาจากตรงนั้น "การทำฟู้ดทรัคค่อนข้างยากตอนที่เริ่มต้น" Kidera อธิบาย "ไม่มีอะไรที่รองรับการทำธุรกิจเคลื่อนที่มากนัก นอกเหนือไปจาก iPhone แล้วจากนั้นก็เริ่มมี iPad เครื่องแรกเข้ามา ผมคิดว่า iPad เป็นสิ่งที่ช่วยเราได้จริงๆ ในการทำให้ธุรกิจเคลื่อนที่เติบโต จังหวะเวลาตอนนั้นก็เหมาะเจาะอย่างมากด้วย เพราะเราสามารถที่จะรับการจ่ายเงินได้ในขณะที่เราอยู่ข้างนอก โดยไม่ต้องอาศัยแต่เพียงเงินสดเพียงอย่างเดียว"
พนักงานของ Señor Sisig ใช้อุปกรณ์ Apple ในการติดตามสินค้าคงคลัง ตรวจสอบยอดขาย และสื่อสารระหว่างร้านแต่ละแห่ง และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้นำเอา Apple Business Essentials มาใช้เพื่อแก้ปัญหาความต้องการในด้านไอทีที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริการนี้ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้นำเอาการจัดการอุปกรณ์ บริการช่วยเหลือทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงของ Apple และการเก็บข้อมูลบน iCloud มาผสานรวมเข้าด้วยกันในการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียวสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
"เราโชคดีที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Apple ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา" Kidera กล่าว "ซึ่งนี่ให้ความรู้สึกของการเป็นพันธมิตรกันได้มากกว่าแค่การเข้าไปในร้าน เรามีคนที่สามารถพูดคุยได้โดยตรงเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในทันที่ปล่อยออกมา การมีใครสักคนที่เราสามารถหันไปหาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงได้ถือเป็นหัวใจสำคัญ และยังมีคนที่จะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เรายังไม่เคยพบเห็นอีกด้วย"
ทีมงานยังใช้ Apple Business Connect เครื่องมือฟรีที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถปรับแต่งว่า ข้อมูลของตนจะปรากฏอย่างไรในทุกแอปของ Apple เพื่อให้ลูกค้าตามทันข่าวสารล่าสุดของสาขาที่มีอยู่หลายแห่งของตนเอง
"เป้าหมายก็คือการสร้างความมั่นใจว่า ผู้คนจะรู้ว่าตัวเองสามารถใช้การ์ดสถานที่ของเราในแอป Apple Maps ได้ไม่เพียงแค่การนำทางมาที่ร้านของเรา แต่ยังสามารถสั่งอาหารและจ่ายเงินได้โดยตรงบนแอป Maps" Kidera ให้อรรถาธิบาย ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในขณะที่บริษัทเล็งที่จะขยายสาขาของตนเองออกไปในนอกย่าน Bay Area ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และแม้กระทั่งทั่วประเทศ

ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกด้วย Tap to Pay บน iPhone

ในช่วงบ่ายวันสุดสัปดาห์ธรรมดาๆ วันหนึ่ง ร้านขนาดใหญ่กว่า 325 ตารางเมตรซึ่งในตอนนี้เป็นที่ทำการของ Darianna Bridal & Tuxedo ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมีพลังและความอบอุ่น ในขณะที่ลูกค้าเดินไปตามช่องวางสินค้าของร้านเพื่อเลือกหาเสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับวันสำคัญของตนเอง 
แต่ย้อนไปในปี 2013 ธุรกิจนี้เริ่มต้นมาแบบเจียมเนื้อเจียมตัว โดยคู่สามีภรรยา Franco Salerno และ Wendy Ianieri-Salerno ซึ่งเริ่มต้นเขียนไอเดียของตนเองลงบนกระดาษเช็ดปาก ในขณะที่เดินทางกลับบ้านจากงานแต่งงานในประเทศเม็กซิโก ซึ่งในตอนนั้นตัวเลือกของเสื้อผ้าแบบเป็นทางการเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด ในบ้านเกิดของทั้งสองคนที่ย่านชานเมืองทางเหนือของเมืองฟิลาเดลเฟีย
ซีอีโอ Franco Salerno (ซ้าย) และ COO Wendy Ianieri-Salerno ของ Darianna Bridal & Tuxedo
ซีอีโอ Franco Salerno (ซ้าย) และ COO Wendy Ianieri-Salerno เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเจ้าของร่วมของ Darianna Bridal & Tuxedo
"สามเดือนต่อมา เราก็เปิดร้านของเราที่มีชุดเจ้าสาว ชุดทักซีโด สูท ชุดสำหรับงานพรอม และชุดเพื่อนเจ้าสาว" Salerno เล่า ภายในหกเดือน ธุรกิจของคนทั้งคู่ก็เติบโตจนใหญ่เกินกว่าที่ร้านเดิมจะรองรับได้ ทั้งสองเพิ่มจำนวนทีมงาน ซึ่งตอนนี้มีลูกสาว Daria และ Deanna เข้ามาร่วมด้วย และเน้นไปที่บริการผลิตตามสั่งซึ่งทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านทุกครั้งที่ต้องการเสื้อผ้าแบบเป็นทางการสำหรับตนเอง 
การมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมอยู่ในร้านเป็นหัวใจสำคัญในการขยายการดำเนินงาน โดยในตอนนี้ คำขอกำหนดนัดหมายจากพนักงานจะส่งไปและรับการอนุมัติโดยใช้แอป Square Payroll บน iPhone และทีมงานก็ใช้แอป LiveHelpNow สำหรับ iPhone และ Mac เพื่อสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าซึ่งส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ของร้าน โดยปกติ Salerno จะเข้าไปใน Apple Business Connect เพื่ออัปเดตการ์ดสถานที่ของ Darianna Bridal & Tuxedo ด้วยรูปภาพใหม่ๆ และใช้คุณสมบัติ Showcase ใน Business Connect เพื่อโปรโมทกิจกรรมที่กำลังจะมาถึง 
ในตอนแรก iPad พร้อมด้วย Square ทำหน้าที่บันทึกเงินสดของร้านเป็นหลัก แต่ในตอนนี้ เพื่อทำให้กระบวนการจ่ายเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น พนักงานสามารถใช้ Tap to Pay บน iPhone พร้อมด้วยแอป Square Point of Sale เพื่อจบการขายได้จากทุกที่ในร้านโดยใช้เพียงแค่ iPhone โดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์อื่นใดเพิ่มเติมเลย ความยืดหยุ่นใหม่นี้เป็นสิ่งสำคัญเป็นพิเศษในช่วงกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นช่วงเทศกาลแต่งงาน
"ในเดือนที่ยุ่งที่สุดของเรา ร้านจะมีคนแน่นมากจนมีคนเข้าคิวกันยาวเหยียด เพื่อรอรับการบริการหรือรอจ่ายเงิน" Salerno เล่า "เมื่อก่อน ลูกค้าจะหงุดหงิดที่ต้องรอ บางคนถึงกับเดินออกจากร้านไปเลย ตอนนี้การใช้ Tap to Pay บน iPhone ช่วยให้เราสามารถเดินไปรอบๆ ร้านและคิดเงินให้ลูกค้าได้ ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาที่ลูกค้าจะเดินออกจากร้านไป ก่อนที่เราจะสามารถให้บริการพวกเขาได้"
นั่นเป็นสิ่งที่ชนะใจลูกค้า และก็เป็นชัยชนะของ Darianna Bridal & Tuxedo ด้วย สำหรับผู้ประกอบการอย่าง Salerno นับว่าระบบนิเวศของ Apple มีพลังในการช่วยให้ธุรกิจเติบโตและดำเนินการไปได้ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า
เพื่อร่วมฉลองสัปดาห์ธุกิจขนาดเล็กแห่งชาติ (วันที่ 30 เมษายนถึง 6 พฤษภาคม) Apple Store บางแห่งใน นิวยอร์กซิตี้, วอชิงตัน ดี.ซี. และ ชิคาโก จะมีการจัดเซสชั่น Today at Apple ที่ชื่อว่า “Grow Your Business With Apple” โดยเซสชั่นฟรีเหล่านี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจขนาดเล็ก ในเรื่องวิธีการง่ายๆ ในการปรับแต่งตัวตนของแต่ละธุรกิจในทุกแอปของ Apple ด้วย Apple Business Connect การรับการจ่ายเงินด้วย Tap to Pay บน iPhone รวมถึงการรับบริการช่วยเหลือและการจัดการอุปกรณ์ด้วย Apple Business Essentials ทุกธุรกิจยังสามารถสมัครเข้าร่วมเซสชั่นออนไลน์ในวันที่ 14 มิถุนายนได้ด้วย และหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของ Apple โปรดไปที่ apple.com/business/small-business
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com