apple stories
Apple เพิ่มศักยภาพในการเติบโตและการรองรับลูกค้าให้แก่ธุรกิจขนาดเล็ก
ผู้ก่อตั้ง Kids of Immigrants, Señor Sisig และ Darianna Bridal & Tuxedo แบ่งปันวิธีที่แต่ละคนใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของ Apple ในการสร้างความเติบโตให้แก่บริษัทของตนเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากจุดกำเนิดของไอเดียทางธุรกิจสุดสร้างสรรค์ผ่านขั้นตอนการวางแผน การเปิดตัว ไปจนถึงการเติบโตและการขยายตัว เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กต่างใช้ประโยชน์จากพลังของ Apple ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการในการจัดการกับการดำเนินงานของตนเองและการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าในทุกๆ วัน
ในลอสแองเจลิส แฟชั่นสตรีทแวร์แบรนด์ Kids of Immigrants ใช้ iPad และ Apple Pencil ในการทำให้แฟชั่นสีสันสดใสกลายเป็นจริงขึ้นมา และใช้ Mac ในการนำแฟชั่นเหล่านี้ออกสู่โลก ส่วนในย่าน San Francisco Bay Area ธุรกิจที่เดิมเป็นฟู้ดทรัคขนาดเล็กอย่าง Señor Sisig ซึ่งใช้ iPad ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ ก็ได้ขยายตัวเป็นร้านสตรีทฟู้ดอาหารพื้นถิ่นของฟิลิปปินส์ โดยใช้ Apple Business Essentials และกลุ่มอุปกรณ์ Apple และในย่านชานเมืองฟิลาเดลเฟีย Darianna Bridal & Tuxedo ก็ใช้ Tap to Pay บน iPhone เพื่อให้กระบวนการจ่ายเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น และลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น รวมถึงการใช้ Apple Business Connect เพื่อจัดการกับตัวตนของตนเองในระบบนิเวศของ Apple
ต่อไปนี้ มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดกำเนิดที่นำผู้ก่อตั้งของแต่ละธุรกิจเดินไปบนเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์และบริการ Apple ที่ทุกคนใช้ในการขยายการดำเนินงานของตนเอง และเหตุการณ์สำคัญที่ให้พวกเขาประสบความสำเร็จในฐานะธุรกิจขนาดเล็กอย่างเช่นในทุกวันนี้
ดีไซน์อันมีชีวิตชีวากลายเป็นจริงได้ด้วย iPad และ Apple Pencil
การใช้ชีวิตอยู่ในย่าน Pico-Union ใจกลางลอสแองเจลิสได้กลายมาเป็นแรงผลักดันให้ Daniel Buezo และ Weleh Dennis ต้องการที่จะทำให้แบรนด์ Kids of Immigrants เป็นจริงขึ้นมา โดยทั้งคู่ได้ครุ่นคิดมาเป็นเวลาหลายปีเกี่ยวกับโปรเจ็กต์สร้างสรรค์ ที่จะเป็นการยกย่องรากเหง้าของการเป็นครอบครัวผู้อพยพ ซึ่งพ่อแม่ของ Dennis โยกย้ายมาจากไลบีเรีย ขณะที่ครอบครัวของ Buezo มาจากฮอนดูรัส และพวกเขาก็ไม่เคยขาดแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางละแวกชุมชนอันคึกคักและมีชีวิตชีวาเหล่านี้ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อทางประวัติศาสตร์ของชุมชนผู้อพยพประจำเมือง
"เราอยากบอกเล่าเรื่องราวของเรา" Buezo ให้อรรถาธิบายถึงแบรนด์แฟชั่นสตรีทแวร์ที่ทั้งสองได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2015 "การเติบโตขึ้นมาด้วยความสนใจในเรื่องสไตล์ แฟชั่น และสตรีทแวร์ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีใครที่เป็นตัวแทนของเรา และไม่มีใครที่มองเห็นเราอย่างจริงจัง สำหรับแบรนด์ Kids of Immigrants คุณค่าหลักของเราก็คือการเป็นตัวแทนและการเสริมศักยภาพ ซึ่งเรากำลังเจาะลึกลงในไปในตัวตนของเรา และแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ของเรา ในทุกสิ่งที่พวกท่านทำให้เรา"
จากแรกเริ่มที่มีอุปกรณ์เพียงแค่ iPhone และ MacBook Pro ของเพื่อน Buezo และ Dennis เริ่มต้นแบรนด์ Kids of Immigrants ด้วยการนำเอาเสื้อผ้าวินเทจจากร้านขายของมือสองมารีไซเคิลและออกแบบการใช้งานใหม่ รวมถึงใช้เพื่อนๆ ของตนเองมาช่วยกันทำหน้าที่เป็นนางแบบ ผู้อำนวยการ และช่างภาพของแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่ แล้วจากตรงนั้น พวกเขาก็ใช้ Apple Pencil และ iPad (รุ่นที่ 10) ในการออกแบบและเปิดตัวเสื้อผ้าสีสันสดใสพร้อมด้วยข้อความที่เน้นในเรื่องชุมชน ซึ่งทำให้พวกเขากลายมาเป็นที่รู้จักกันในทุกวันนี้
"สิ่งที่ปลดล็อคผมได้อย่างแท้จริงก็คือ การที่สามารถใช้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเอง และวาดภาพหรือสร้างภาพเคลื่อนไหวให้ไอเดียเหล่านั้นด้วย iPad ใน Adobe" Dennis กล่าว "ซึ่งทำให้กระบวนการสร้างสรรค์เป็นไปอย่างง่ายดายและไหลลื่น ถือเป็นสิ่งที่พลิกสถานการณ์อย่างแท้จริง"
เมื่อบริษัทเริ่มขยายตัว การดำเนินงานในแต่ละวันก็ขับเคลื่อนด้วย Mac mini ที่มี Studio Display และ MacBook Pro
"Mac mini และ Studio Display ทำงานให้เราได้อย่างยอดเยี่ยมในสองด้านที่แตกต่างกันของธุรกิจของเรา นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์กับการออกแบบ และการขนส่งกับบริการคลังสินค้าที่พร้อมจัดส่ง" Christian Gray ผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินการของบริษัทกล่าว "ต้องขอบคุณเทคโนโลยีและการปรับปรุงต่างๆ ที่ Apple ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอผ่านการทำความเข้าใจในลูกค้าของตนเอง ทำให้เรามีเครื่องมือที่เป็นทางลัดซึ่งช่วยเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรับมือกับทุกอย่างที่เข้ามาได้ตลอดเวลา"
ธุรกิจเคลื่อนที่ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาด้วย Apple Business Essentials
ด้วยกลุ่มฟู้ดทรัคจำนวนสี่คันและอาคารร้านอาหารสามแห่งในย่าน San Francisco Bay Area ทั้ง Evan Kidera และ Gil Payumo ต่างก็กำลังมุ่งหน้าสู่ภารกิจในการทำให้ซีซิก (Sisig) อันเป็นอาหารสตรีทฟู้ดขึ้นชื่อในฟิลิปปินส์ซึ่งทำมาจากเนื้อหมูบด กลายมาเป็นที่นิยมกันทั่วไปในแบบเดียวกับเบอร์ริโต ทาโก นาโชส์ และมันฝรั่งทอด
ทั้งคู่ได้เปิดตัวธุรกิจของตนเอง Señor Sisig ด้วยฟู้ดทรัคเพียงคันเดียวในปี 2010 "ตอนนั้น เรารู้สึกจริงๆ ว่า ซีซิกสามารถเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของฟิลิปปินส์ซึ่งแพร่หลายไปทั่วโลกได้" Kidera กล่าว "แต่เราต้องเริ่มจากการทำให้อาหารนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยและกล้าที่จะลอง ความหวังก็คือซีซิกจะเป็นเหมือนแคลิฟอร์เนียโรลหรือเบอร์ริโต ที่ช่วยเปิดมิติใหม่ให้กับทุกสิ่ง"
ฝูงชนเริ่มยอมรับและดื่มด่ำไปกับรสชาติ แล้วธุรกิจก็เริ่มเติบโตขึ้นมาจากตรงนั้น "การทำฟู้ดทรัคค่อนข้างยากตอนที่เริ่มต้น" Kidera อธิบาย "ไม่มีอะไรที่รองรับการทำธุรกิจเคลื่อนที่มากนัก นอกเหนือไปจาก iPhone แล้วจากนั้นก็เริ่มมี iPad เครื่องแรกเข้ามา ผมคิดว่า iPad เป็นสิ่งที่ช่วยเราได้จริงๆ ในการทำให้ธุรกิจเคลื่อนที่เติบโต จังหวะเวลาตอนนั้นก็เหมาะเจาะอย่างมากด้วย เพราะเราสามารถที่จะรับการจ่ายเงินได้ในขณะที่เราอยู่ข้างนอก โดยไม่ต้องอาศัยแต่เพียงเงินสดเพียงอย่างเดียว"
พนักงานของ Señor Sisig ใช้อุปกรณ์ Apple ในการติดตามสินค้าคงคลัง ตรวจสอบยอดขาย และสื่อสารระหว่างร้านแต่ละแห่ง และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้นำเอา Apple Business Essentials มาใช้เพื่อแก้ปัญหาความต้องการในด้านไอทีที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริการนี้ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้นำเอาการจัดการอุปกรณ์ บริการช่วยเหลือทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงของ Apple และการเก็บข้อมูลบน iCloud มาผสานรวมเข้าด้วยกันในการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียวสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
"เราโชคดีที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Apple ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา" Kidera กล่าว "ซึ่งนี่ให้ความรู้สึกของการเป็นพันธมิตรกันได้มากกว่าแค่การเข้าไปในร้าน เรามีคนที่สามารถพูดคุยได้โดยตรงเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในทันที่ปล่อยออกมา การมีใครสักคนที่เราสามารถหันไปหาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงได้ถือเป็นหัวใจสำคัญ และยังมีคนที่จะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เรายังไม่เคยพบเห็นอีกด้วย"
ทีมงานยังใช้ Apple Business Connect เครื่องมือฟรีที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถปรับแต่งว่า ข้อมูลของตนจะปรากฏอย่างไรในทุกแอปของ Apple เพื่อให้ลูกค้าตามทันข่าวสารล่าสุดของสาขาที่มีอยู่หลายแห่งของตนเอง
"เป้าหมายก็คือการสร้างความมั่นใจว่า ผู้คนจะรู้ว่าตัวเองสามารถใช้การ์ดสถานที่ของเราในแอป Apple Maps ได้ไม่เพียงแค่การนำทางมาที่ร้านของเรา แต่ยังสามารถสั่งอาหารและจ่ายเงินได้โดยตรงบนแอป Maps" Kidera ให้อรรถาธิบาย ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในขณะที่บริษัทเล็งที่จะขยายสาขาของตนเองออกไปในนอกย่าน Bay Area ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และแม้กระทั่งทั่วประเทศ
ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกด้วย Tap to Pay บน iPhone
ในช่วงบ่ายวันสุดสัปดาห์ธรรมดาๆ วันหนึ่ง ร้านขนาดใหญ่กว่า 325 ตารางเมตรซึ่งในตอนนี้เป็นที่ทำการของ Darianna Bridal & Tuxedo ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมีพลังและความอบอุ่น ในขณะที่ลูกค้าเดินไปตามช่องวางสินค้าของร้านเพื่อเลือกหาเสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับวันสำคัญของตนเอง
แต่ย้อนไปในปี 2013 ธุรกิจนี้เริ่มต้นมาแบบเจียมเนื้อเจียมตัว โดยคู่สามีภรรยา Franco Salerno และ Wendy Ianieri-Salerno ซึ่งเริ่มต้นเขียนไอเดียของตนเองลงบนกระดาษเช็ดปาก ในขณะที่เดินทางกลับบ้านจากงานแต่งงานในประเทศเม็กซิโก ซึ่งในตอนนั้นตัวเลือกของเสื้อผ้าแบบเป็นทางการเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัด ในบ้านเกิดของทั้งสองคนที่ย่านชานเมืองทางเหนือของเมืองฟิลาเดลเฟีย
"สามเดือนต่อมา เราก็เปิดร้านของเราที่มีชุดเจ้าสาว ชุดทักซีโด สูท ชุดสำหรับงานพรอม และชุดเพื่อนเจ้าสาว" Salerno เล่า ภายในหกเดือน ธุรกิจของคนทั้งคู่ก็เติบโตจนใหญ่เกินกว่าที่ร้านเดิมจะรองรับได้ ทั้งสองเพิ่มจำนวนทีมงาน ซึ่งตอนนี้มีลูกสาว Daria และ Deanna เข้ามาร่วมด้วย และเน้นไปที่บริการผลิตตามสั่งซึ่งทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านทุกครั้งที่ต้องการเสื้อผ้าแบบเป็นทางการสำหรับตนเอง
การมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมอยู่ในร้านเป็นหัวใจสำคัญในการขยายการดำเนินงาน โดยในตอนนี้ คำขอกำหนดนัดหมายจากพนักงานจะส่งไปและรับการอนุมัติโดยใช้แอป Square Payroll บน iPhone และทีมงานก็ใช้แอป LiveHelpNow สำหรับ iPhone และ Mac เพื่อสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าซึ่งส่งข้อความมาทางโทรศัพท์ของร้าน โดยปกติ Salerno จะเข้าไปใน Apple Business Connect เพื่ออัปเดตการ์ดสถานที่ของ Darianna Bridal & Tuxedo ด้วยรูปภาพใหม่ๆ และใช้คุณสมบัติ Showcase ใน Business Connect เพื่อโปรโมทกิจกรรมที่กำลังจะมาถึง
ในตอนแรก iPad พร้อมด้วย Square ทำหน้าที่บันทึกเงินสดของร้านเป็นหลัก แต่ในตอนนี้ เพื่อทำให้กระบวนการจ่ายเงินรวดเร็วยิ่งขึ้น พนักงานสามารถใช้ Tap to Pay บน iPhone พร้อมด้วยแอป Square Point of Sale เพื่อจบการขายได้จากทุกที่ในร้านโดยใช้เพียงแค่ iPhone โดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์อื่นใดเพิ่มเติมเลย ความยืดหยุ่นใหม่นี้เป็นสิ่งสำคัญเป็นพิเศษในช่วงกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นช่วงเทศกาลแต่งงาน
"ในเดือนที่ยุ่งที่สุดของเรา ร้านจะมีคนแน่นมากจนมีคนเข้าคิวกันยาวเหยียด เพื่อรอรับการบริการหรือรอจ่ายเงิน" Salerno เล่า "เมื่อก่อน ลูกค้าจะหงุดหงิดที่ต้องรอ บางคนถึงกับเดินออกจากร้านไปเลย ตอนนี้การใช้ Tap to Pay บน iPhone ช่วยให้เราสามารถเดินไปรอบๆ ร้านและคิดเงินให้ลูกค้าได้ ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาที่ลูกค้าจะเดินออกจากร้านไป ก่อนที่เราจะสามารถให้บริการพวกเขาได้"
นั่นเป็นสิ่งที่ชนะใจลูกค้า และก็เป็นชัยชนะของ Darianna Bridal & Tuxedo ด้วย สำหรับผู้ประกอบการอย่าง Salerno นับว่าระบบนิเวศของ Apple มีพลังในการช่วยให้ธุรกิจเติบโตและดำเนินการไปได้ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า
เพื่อร่วมฉลองสัปดาห์ธุกิจขนาดเล็กแห่งชาติ (วันที่ 30 เมษายนถึง 6 พฤษภาคม) Apple Store บางแห่งใน นิวยอร์กซิตี้, วอชิงตัน ดี.ซี. และ ชิคาโก จะมีการจัดเซสชั่น Today at Apple ที่ชื่อว่า “Grow Your Business With Apple” โดยเซสชั่นฟรีเหล่านี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจขนาดเล็ก ในเรื่องวิธีการง่ายๆ ในการปรับแต่งตัวตนของแต่ละธุรกิจในทุกแอปของ Apple ด้วย Apple Business Connect การรับการจ่ายเงินด้วย Tap to Pay บน iPhone รวมถึงการรับบริการช่วยเหลือและการจัดการอุปกรณ์ด้วย Apple Business Essentials ทุกธุรกิจยังสามารถสมัครเข้าร่วมเซสชั่นออนไลน์ในวันที่ 14 มิถุนายนได้ด้วย และหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของ Apple โปรดไปที่ apple.com/business/small-business
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้