อัพเดท
25 ตุลาคม 2565
Apple ร้องขอให้ซัพพลายเชนทั่วโลกกำจัดคาร์บอนภายในปี 2030
บริษัทเร่งร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อกำจัดคาร์บอนในการผลิตที่เกี่ยวข้องกับ Apple พร้อมขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดทั่วโลก
วันนี้ Apple ร้องขอให้ซัพพลายเชนทั่วโลกออกมายอมรับปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกพร้อมหาวิธีการกำจัดคาร์บอนอย่างครอบคลุม บริษัทจะประเมินการดำเนินงานของพาร์ทเนอร์ด้านการผลิตเพื่อกำจัดคาร์บอนในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ Apple รวมถึงใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน พร้อมกับจะติดตามความคืบหน้าเป็นรายปี การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอนตั้งแต่ปี 2020 และเรามุ่งมั่นเป็นอย่างสูงกับเป้าหมายที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วทั้งซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
เนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลกนั้นมีมากขึ้น Apple จึงได้ประกาศโครงการริเริ่มและการลงทุนใหม่ที่มุ่งกำจัดคาร์บอนในเศรษฐกิจโลกพร้อมกับส่งเสริมวิธีการแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศสำหรับชุมชน โครงการเหล่านี้รวมถึงการลงทุนจำนวนมากกับพลังงานหมุนเวียนในยุโรป การร่วมมือที่จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด และการสนับสนุนใหม่สำหรับโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนการกำจัดคาร์บอนและวิธีการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจากชุมชนทั่วโลก
"Apple จัดให้การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด เพราะช่วงเวลาเช่นนี้จะช่วยให้เราดำเนินการตามที่กล่าวไว้" Tim Cook, CEO ของ Apple กล่าว "เรารอคอยที่จะได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อทำให้ซัพพลายเชนของ Apple เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ Apple ไม่ได้หยุดแค่ที่บริษัทของเรา เราหวังว่าจะเป็นแรงกระเพื่อมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"
ขับเคลื่อนการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของซัพพลายเชน
ในฐานะส่วนหนึ่งของการหารือกับซัพพลายเออร์ บริษัทได้ร่วมมือกับซัพพลายเชนทั่วโลกเพื่อกระตุ้นการดำเนินการให้งานที่เกี่ยวข้องกับ Apple มีความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัทกำหนดให้มีการรายงานความคืบหน้าของเป้าหมายเหล่านี้ โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสโคป 1 และสโคป 2 ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของ Apple อีกทั้งจะติดตามและตรวจสอบความคืบหน้ารายปี Apple จะร่วมมือกับซัพพลายเออร์ที่เร่งทำงานและมีความก้าวหน้าในการกำจัดคาร์บอน
นอกจากนี้ Apple ยังส่งเสริมให้ซัพพลายเออร์ออกมายอมรับปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนนอกเหนือจากการผลิตของ Apple เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดเป็นอันดับแรก Apple ได้ลดการปล่อยก๊าซ 40% ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่บริษัทต้องการทำให้ได้ในปี 2030 โดยส่วนมากแล้วสามารถทำสำเร็จผ่านการประหยัดพลังงาน การออกแบบคาร์บอนต่ำ และการทำให้การผลิตของบริษัทเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการเปลี่ยนให้ซัพพลายเชนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
ซัพพลายเออร์กว่า 200 นับเป็น 70% ของการลงทุนด้านการผลิตโดยตรงของ Apple ที่มุ่งมั่นจะใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานลมหรือแสงอาทิตย์ในการผลิตทั้งหมดของ Apple พาร์ทเนอร์ด้านการผลิตหลักอย่าง Corning Incorporated, Nitto Denko, SK hynix, STMicroelectronics, TSMC และ Yuto ได้มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการผลิตทั้งหมดของ Apple ด้วยพลังงานหมุนเวียน 100%
ในการช่วยให้ซัพพลายเออร์ทำตามเป้าหมายและกล้าก้าวต่อไปไกลกว่านั้น Apple ได้มอบชุดแหล่งข้อมูลแบบ e-learning ฟรีและหลักสูตรฝึกอบรมแบบสดผ่านโครงการพลังงานสะอาด อีกทั้งยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ในท้องที่เพื่อค้นหาทางแก้ไขปัญหาพลังงานหมุนเวียนและกำจัดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวแทนของซัพพลายเออร์มากกว่า 150 รายได้เข้าร่วมการฝึกอบรมสดภายในปีนี้ปีเดียว Apple วางแผนที่จะแจกจ่ายแหล่งข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการฝึกอบรมสาธารณะเป็นแห่งแรก ซึ่งธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ทุกขนาดสามารถเข้าร่วมได้ฟรี ทั้งบริษัทที่อยู่ในซัพพลายเชนของ Apple และไม่อยู่ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและเครือข่ายการรณรงค์ที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100%
ขยายการใช้พลังงานสะอาดเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้า
บริษัทได้จัดหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนออฟฟิศ ร้านค้าปลีก และศูนย์ข้อมูลของบริษัทใน 44 ประเทศตั้งแต่ปี 2018 ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Apple ในการใช้พลังงานสะอาด ส่วนซัพพลายเออร์ก็ได้นำพลังงานสะอาดมาใช้ทั่วโลกกว่า 10 กิกะวัตต์ เพื่อเป็นการต่อยอดจากกระบวนการนี้ Apple ได้วางแผนเริ่มโครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมขนาดใหญ่ในยุโรป โดยขนาดของโครงการอยู่ที่ระหว่าง 30 ถึง 300 เมกะวัตต์หลังจากมีการร้องขอข้อเสนอที่ออกมาในช่วงต้นปี ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทมุ่งหวังที่จะผลิตพลังงานสะอาดให้มากพอที่จะขับเคลื่อนอุปกรณ์ของ Apple ทุกชิ้นในทวีปโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนต่ำ พร้อมกับดำเนินการผลิตพลังงานสะอาดแก่ออฟฟิศของบริษัท ร้านค้าปลีก และศูนย์ข้อมูลให้ได้ 100% โดยรวมแล้ว การลงทุนที่วางแผนไว้จะสร้างพลังงานหมุนเวียน 3,000 กิกะวัตต์ต่อปี
การลงทุนในยุโรปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขนาดใหญ่ของบริษัทเพื่อแก้ไขปัญหาคาร์บอนฟุ้ตพรินท์ประมาณ 22% ที่เกิดจากพลังงานไฟฟ้าที่ลูกค้าใช้ชาร์จอุปกรณ์ Apple วางแผนที่จะนำโครงการพลังงานสะอาดไปใช้ในจุดที่มีความเข้มข้นของคาร์บอนสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานไฟฟ้าของยุโรป ในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นอย่างยิ่ง เมื่อช่วงต้นปีนี้ บริษัทได้ประกาศโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ในสหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย ซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้อุปกรณ์ของผู้บริโภค
ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาสามารถมีส่วนในการลดคาร์บอนฟุ้ตพรินท์จาก iPhone ผ่านการชาร์จด้วยพลังงานสะอาด คุณสมบัติใหม่ที่จะมีให้ใช้งานต้นเดือนนี้ในสหรัฐอเมริกาผ่าน iOS 16 จะตรวจสอบแหล่งพลังงานไฟฟ้าระหว่างเวลาชาร์จที่คาดไว้และเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อใช้แหล่งพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม เพื่อเป็นการส่งเสริมการตัดสินใจเลือกทำสิ่งที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศให้กับลูกค้า Apple ได้ร่วมกับCoolClimate Network จาก University of California, Berkeley ซึ่งเป็นการร่วมมือวิจัยเพื่อส่งเสริมและพลักดันให้องค์กรหันมาดำเนินการโดยใช้คาร์บอนต่ำ
ผลักดันด้านความเสมอภาคและหาทางแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลกที่อยู่ในขอบเขตงบประมาณ
วันนี้ Apple ยังประกาศดำเนินโครงการใหม่ 3 โครงการผ่าน Restore Fund ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มหนึ่งเดียวที่มุ่งเน้นการกำจัดคาร์บอน โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนทางการเงินพร้อมๆ กับกำจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ Apple ได้ลงทุนร่วมกับผู้จัดการด้านป่าไม้คุณภาพสูง 3 รายในบราซิลและปารากวัยพร้อมกับ Conservation International และ Goldman Sachs เพื่อฟื้นคืนป่าไม้สำหรับใช้งานที่ได้รับการรับรองว่ามีความยั่งยืน 150,000 เอเคอร์ อีกทั้งยังปกป้องป่าไม้ ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชุ่มน้ำในท้องถิ่นประมาณ 100,000 เอเคอร์
คาดว่าโครงการเหล่านี้รวมกันจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศได้ 1 ล้านเมตริกตันในปี 2025 และเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะมีการตรวจดู รายงาน และตรวจสอบผลลัพธ์จากการกำจัดคาร์บอน Apple จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียมพร้อมกับใช้เทคโนโลยีการสำรวจข้อมูลจากระยะไกลที่มีความทันสมัย
Apple รุดหน้าในการกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภายในปี 2030 ได้แล้ว 75% และจะให้ความสำคัญกับวิธีการแก้ไขปัญหาคุณภาพสูงและเป็นธรรมชาติสำหรับการปล่อยก๊าซอีก 25% ที่ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน Apple ก็พยายามหาวิธีการแก้ไขปัญหาในรูปแบบใหม่ทั้งหมด รวมทั้งการสนับสนุนการวิเคราะห์โดย Carbon Direct ซึ่งจะระบุหนทางในการพัฒนาเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานที่มีความยั่งยืน
นอกจากโครงการ Restore Fund แล้ว Apple ยังประกาศการร่วมมือใหม่ในวันนี้เพื่อดำเนินการหาทางแก้ไขปัญหาที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนทั่วโลก
- ในนามิเบียและซิมบับเว Apple ได้ร่วมมือกับ World Wildlife Fund (WWF) เพื่อสนับสนุนการรักษาสภาพภูมิอากาศให้ดี และการทำงานที่ยั่งยืนผ่านโปรแกรม Climate Crowd โดย Climate Crowd ทำงานร่วมกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อสร้างความแข็งแรงและพัฒนาการทำงานทางเลือกซึ่งพึ่งพาการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติในภูมิภาค ตั้งแต่การทำการเกษตรแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปจนถึงการเลี้ยงผึ้งและกักเก็บน้ำฝน นอกจากนี้ โครงการยังสนับสนุนการแทรกแซงในภูมิภาค เช่น เตาทำอาหารพลังงานสะอาดที่ช่วยให้ชุมชนได้รับทรัพยากรที่จำเป็นโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติรอบๆ ตัว
- ส่วนในจีน Apple ได้ร่วมมือกับ China Green Carbon Foundation ในการทำวิจัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่ดี อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายผู้ให้ความร่วมมือทั่วโลกโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของอ่างกักเก็บคาร์บอนที่ทำจากธรรมชาติซึ่งได้รับการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ การร่วมมือจะสนับสนุนการระบุและจัดทำแผนที่จุดที่ต้องให้ความสำคัญในมณฑลเสฉวน รวมถึงพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและวิธีการจัดการป่าไม้ซึ่งสามารถนำไปใช้ซ้ำได้ในภูมิภาคอื่น นอกจากนี้ Apple ยังสนับสนุนโปรแกรมไพล็อตในเฉิงตูเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการกำจัดคาร์บอนในพื้นที่เมืองและกึ่งเมือง ซึ่งจะช่วยสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับโครงการกำจัดคาร์บอนในพื้นที่เมืองของจีน อีกทั้งยังปรับปรุงการปรับตัวกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไปและความแข็งแรง
- ส่วนในพื้นที่ชยูลูฮิลส์ของเคนยา Apple ได้ร่วมมือกับ Conservation International ตั้งแต่ปี 2020 เพื่อแสดงให้เห็นว่าการจัดการปศุสัตว์ที่ดีขึ้นสามารถฟื้นฟูทุ่งหญ้า กักเก็บคาร์บอน และสร้างความทนต่อสภาพอากาศสำหรับการทำงานในทุ่งหญ้าทั่วแอฟริกาได้ ปัจจุบัน โครงการได้ฝึกอบรมสมาชิกชุมชนมาไซในท้องถิ่นหลายร้อยคนให้รู้เทคนิคการจัดการทุ่งหญ้าที่ดีขึ้น รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ด้วยหญ้า ลดการกัดเซาะของดิน การเจริญทดแทนตามธรรมชาติ และการสร้างธนาคารเมล็ดพันธุ์ที่นำโดยสตรี
- ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ Apple ได้เปิดตัวโครงการความร่วมมือใหม่กับ ChangemakerXchange เพื่อส่งเสริมการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการริเริ่มเป็นผู้นำในภูมิภาค การสร้างเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยง สร้าง และส่งเสริมนวัตกรรมด้านสภาพภูมิอากาศที่นำโดยอนุชน Apple ได้ช่วยเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหากับโอกาสสนับสนุนเงินทุน อีกทั้งยังส่งเสริมทักษะความเป็นผู้นำด้านการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ โครงการริเริ่มจะเปิดตัวในอียิปต์ที่การประชุม UN เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (COP27) และใน 2 ปีข้างหน้าจะช่วยสนับสนุนกลุ่มผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงและผู้สร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม 100 ราย โดย 50 คนมาจากยุโรปและอีก 50 คนมาจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้