เปิดในหน้าต่างใหม่
ข่าวประชาสัมพันธ์ 13 มกราคม 2564

Apple เปิดตัวโครงการใหม่ที่สำคัญในชื่อ Racial Equity and Justice Initiative เพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติที่กระทำอย่างเป็นระบบ และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเชื้อชาติทั่วประเทศ

Apple มอบเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มต่างๆ ซึ่งรวมถึงศูนย์การเรียนรู้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับ HBCU และ Apple Developer Academy ในดีทรอยต์

ภาพจำลองของแคมปัส Propel Center
Apple สนับสนุนการเปิดตัว Propel Center (ในภาพจำลองด้านบน) ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมสำหรับทั้งชุมชน HBCU ที่เพียบพร้อมทั้งในด้านหลักสูตรการศึกษา โอกาสในการฝึกงาน รวมถึงการให้คำปรึกษา และการเปิดศูนย์แห่งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม Racial Equity and Justice Initiative มูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย — วันนี้ Apple เปิดตัวหลายโครงการใหม่ที่สำคัญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม Racial Equity and Justice Initiative (REJI) มูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่มุ่งขจัดระบบอันเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางโอกาส และต่อสู้กับความอยุติธรรมที่ชุมชนชาวผิวดำและผิวสีน้ำตาลต้องเผชิญ ด้วยเหตุนี้โครงการต่างๆ จึงต้องมองการณ์ไกลและมีความครบถ้วนรอบด้าน เริ่มตั้งแต่ Propel Center ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและการเรียนรู้ระดับโลกในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับ Historically Black Colleges and Universities (HBCUs), Apple Developer Academy ซึ่งสนับสนุนการเขียนโค้ดและการศึกษาด้านเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนในเมืองดีทรอยต์ และการระดมเงินในลักษณะธุรกิจการร่วมลงทุนสำหรับผู้ประกอบการผิวดำและผิวสีน้ำตาล และทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม REJI ของ Apple ซึ่งมุ่งขยายโอกาสให้กับชุมชนชาวผิวดำและผิวสีน้ำตาลทั่วประเทศ และช่วยสร้างผู้นำรุ่นถัดไปที่มีความหลากหลาย
"พวกเราทุกคนล้วนมีภารกิจเร่งด่วนในการสร้างโลกที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น และโครงการใหม่ๆ เหล่านี้ก็เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของ Apple ในเรื่องนี้" Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ของ Apple กล่าว "เรากำลังจะเปิดตัวโครงการล่าสุดของ REJI ร่วมกับพันธมิตรจากหลากหลายวงการซึ่งมีภูมิหลังต่างกัน ตั้งแต่นักเรียนจนถึงอาจารย์ นักพัฒนาจนถึงผู้ประกอบการ และผู้จัดกิจกรรมในชุมชนจนถึงผู้สนับสนุนงานด้านความยุติธรรม ซึ่งต่างทำงานร่วมกันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบอันหนักหน่วงจากการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติมานานเกินกว่าที่จะรับได้ และเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำวิสัยทัศน์นี้มาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ และได้แสดงให้เห็นว่าคำพูดและการกระทำของเรานั้นสอดคล้องกับค่านิยมเรื่องความเท่าเทียมและการยอมรับในความแตกต่างซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ให้ความสำคัญมาโดยตลอด"
Jared Bailey ขณะใส่ AirPods และถือ iPad
Jared Bailey บุคลากรอาวุโสที่ Morehouse College ได้นำหลักสูตรด้านการเขียนโค้ดและการสร้างสรรค์ของ Apple มาผนวกรวมเข้ากับงานบริการด้านสาธารณสุขและชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับ Apple ที่จะขยายขอบเขตยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อ Propel Center เปิดให้บริการ
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว REJI ท่ามกลางกระแสการประท้วงที่มีขึ้นทั่วโลกหลังจากกรณีการเสียชีวิตของ Breonna Taylor, George Floyd และอีกหลายต่อหลายคน และโครงการริเริ่มดังกล่าวก็เป็นการสานต่องานของ Apple ในการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติ ทั้งในด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และระบบยุติธรรม นำโดย Lisa Jackson รองประธานฝ่ายโครงการด้านสิ่งแวดล้อม นโยบาย และกิจกรรมทางสังคมของ Apple กล่าวได้ว่า REJI คือโครงการที่เข้ามาเติมเต็มแผนงานภายในของ Apple ที่มุ่งยกระดับความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างในทุกระดับของบริษัท
"ทุกคนไม่ว่าสีผิวอะไรหรือมาจากที่ไหนสมควรได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน" Jackson กล่าว "ชุมชนชาวผิวดำและผิวสีน้ำตาลต้องเผชิญกับความอยุติธรรมอันแสนสาหัสและอุปสรรคทางสังคมที่ฝังรากลึกมาเป็นเวลานานเกินกว่าที่จะรับได้ เพียงเพื่อต้องการไขว่คว้าความฝันในแบบฉบับชาวอเมริกัน และเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นกระบอกเสียงและมีส่วนช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างเป็นระบบเพื่อเสริมศักยภาพ สร้างแรงบันดาลใจ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายอย่างแท้จริง”

Apple ขยายขอบเขตความร่วมมือกับ HBCU ด้วย Propel Center

Apple ร่วมมือกับ Southern Company และอีกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในชุมชนเพื่อสนับสนุนการเปิดตัว Propel Centerซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและการเรียนรู้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับชุมชน HBCU และเงินสนับสนุน 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Apple ก็จะช่วยให้ Propel Center สามารถให้บริการแพลตฟอร์มเสมือนจริงที่มีประสิทธิภาพแก่นักเรียนและคณาจารย์ HBCU รวมถึงแคมปัสใน Atlanta University Center ที่มีประวัติยาวนาน และการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ในสถาบันที่เป็นพันธมิตร
ศูนย์แห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้นำรุ่นถัดไปที่มีความหลากหลาย โดยมีการจัดเตรียมหลักสูตรที่ล้ำสมัย ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี โอกาสทางอาชีพการงาน และทุนการศึกษาไว้อย่างครบครัน นอกจากนี้ Propel Center ยังมีเส้นทางการศึกษาให้เลือกหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น AI และการเรียนรู้ของระบบ, เทคโนโลยีด้านเกษตรกรรม, ความเป็นธรรมทางสังคม, ศิลปะความบันเทิง, การพัฒนาแอพ, ความจริงเสริม, การออกแบบและศิลปะเชิงสร้างสรรค์, การเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพ และการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก Apple ร่วมพัฒนาหลักสูตร รวมถึงให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือด้านการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบโอกาสในการฝึกงาน
ภาพมุมสูงของ Propel Campus
Propel Center Campus (แสดงด้านบน) - ซึ่งมีห้องบรรยายที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการการเรียนรู้ และที่พักสำหรับนักวิจัยในโปรแกรมฝึกสอนตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ Atlanta University Center
Propel Center คิดค้นและออกแบบโดย Ed Farm ซึ่งเป็นองค์กรสุดสร้างสรรค์ที่ทำงานเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและความเท่าเทียมทางการศึกษา ความคิดริเริ่มนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ Apple กับ Ed Farm และการทำงานร่วมกับ HBCU ถึง 36 แห่งเพื่อมอบโอกาสในการเขียนโค้ด การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสในการทำงานให้กับวิทยาเขตและชุมชนต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา
"เราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับ Apple ในโครงการพิเศษนี้” Anthony Oni ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการ Ed Farm และรองประธานของ Southern Company กล่าว “Propel Center จะช่วยปลูกฝังความเป็นผู้นำและผลักดันนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและอื่นๆ โดยจะทำหน้าที่เสมือนกระดานสปริงที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและแรงผลักดันของการเปลี่ยนแปลงในชุมชนทั่วทั้งอเมริกา”
นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดตั้งกองทุนใหม่ขึ้นมาสองกองทุนเพื่อสนับสนุนโครงการวิศวกรรม HBCU ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Apple กับ HBCU ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง กองทุนนวัตกรรมใหม่ของ Apple จะช่วยให้ HBCU Colleges of Engineering พัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมซิลิคอนและฮาร์ดแวร์ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญของ Apple ได้ ส่วนโปรแกรม Faculty Fellows ใหม่ก็จะสนับสนุนนักการศึกษาของ HBCU ให้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาด้วยโปรแกรมการให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือในการพัฒนาหลักสูตร และเงินทุนเพื่อจัดเตรียมพื้นที่ห้องปฏิบัติการของพวกเขา
ตอนนี้ Apple ยังมีการมอบทุนการศึกษาให้กับ Apple Scholars 100 คนใหม่จากชุมชนด้อยโอกาส ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการทุนการศึกษาที่ทำร่วมกับ Thurgood Marshall College Fund มาอย่างยาวนาน นอกเหนือจากการสนับสนุนทางการเงินแล้ว โปรแกรม Apple Scholars ยังมีบริการให้คำปรึกษาและมอบประสบการณ์เพื่อการพัฒนาอาชีพที่ Apple อีกด้วย
MaKisha Funderburke ทำงานบน iMac
MaKisha Funderburke จะร่วมมือกับ Apple และ Clark Atlanta University ซึ่งเธอเป็นศาสตราจารย์อยู่ ในการสร้างกรอบหลักสูตรสำหรับโปรแกรม Propel Arts ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการศึกษาที่จะมีให้นักเรียนและคณาจารย์ของ HBCU ทั้งหมดได้เลือกผ่านทาง Propel Center
Hailey Bryant-Roye กำลังใช้ MacBook
Hailee Bryant-Roye นักศึกษาวิชาเอกปฐมวัยของ Tennessee State University (TSU) มีโอกาสได้ศึกษาการเรียนการสอนใหม่ๆ ด้วยหลักสูตร "ใครๆ ก็เขียนโค้ดได้" ของ Apple และ "ใครๆ ก็สร้างสรรค์ได้" ซึ่งนำเสนอผ่านความร่วมมือของบริษัทและ TSU นอกจากนี้ เธอจะได้รับโอกาสเพิ่มเติมในการเขียนโปรแกรม รับคำปรึกษา และฝึกงานผ่าน Propel Center อีกด้วย

Developer Academy แห่งแรกในสหรัฐอเมริกาของ Apple จะเปิดให้บริการในดาวน์ทาวน์ดีทรอยต์

ปลายปีนี้ Apple จะเปิด Apple Developer Academy แห่งแรกในสหรัฐอเมริกาที่เมืองดีทรอยต์ เมืองดีทรอยต์เป็นแหล่งชุมชนอันคึกคักของผู้ประกอบการและนักพัฒนาผิวดำ โดยมีธุรกิจที่เจ้าของเป็นคนผิวดำมากกว่า 50,000 แห่ง ตามข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา สถาบันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ นักสร้างสรรค์ และนักเขียนโค้ดผิวดำรุ่นเยาว์ เพื่อช่วยให้พวกเขาได้ฝึกฝนทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในภาวะที่เศรษฐกิจของแอพ iOS กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลักสูตร Apple Developer Academy ด้วยความร่วมมือกับ Michigan State University จะเปิดให้ผู้เรียนทุกคนในเมืองดีทรอยต์ได้เข้าร่วม ไม่ว่าพวกเขาจะมีวุฒิการศึกษาระดับใด หรือมีประสบการณ์การเขียนโค้ดมาก่อนหรือไม่ก็ตาม
Apple Developer Academy ในดีทรอยต์จะมีสองโปรแกรมด้วยกัน ได้แก่ โปรแกรมเบื้องต้น 30 วัน ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้เรียนที่กำลังพิจารณาอาชีพเกี่ยวกับแอพและต้องการทำความเข้าใจให้ดีขึ้นว่าการเป็นนักพัฒนาหมายความว่าอย่างไร ส่วนโปรแกรมเต็มรูปแบบนั้นจะเป็นโปรแกรมแบบเร่งรัดระยะเวลา 10 ถึง 12 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการเป็นนักพัฒนาได้สร้างทักษะที่จำเป็นในการเข้าร่วมวงการแอพ iOS หรือแม้แต่เริ่มต้นธุรกิจของตนเอง Apple คาดว่าโปรแกรมของสถาบันจะเข้าถึงนักเรียนได้กว่า 1,000 คนในแต่ละปี ด้วยหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งการเขียนโค้ด การออกแบบ การตลาด และทักษะวิชาชีพ
และในเดือนหน้า Apple จะจัดโปรแกรม Entrepreneur Camp ทางออนไลน์สำหรับผู้ก่อตั้งและนักพัฒนาแอพผิวดำ เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องโค้ดแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของ Apple ตลอดจนให้คำปรึกษา แรงบันดาลใจ และข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำอันดับต้นๆ ของ Apple

เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการผ่านความร่วมมือใหม่เพื่อส่งเสริมเงินทุน

วันนี้ Apple ได้ประกาศลงทุนในธุรกิจเงินร่วมลงทุนและการธนาคาร 2 โครงการใหม่ เพื่อยุติการกีดกันการเข้าถึงงบประมาณอย่างเป็นระบบที่นักลงทุนผิวดำและผิวสีน้ำตาลต้องเผชิญ โดยทั้งสอง โครงการได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กับธุรกิจของชนกลุ่มน้อยในสังคม บริษัทจะสนับสนุนเงินลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับ Harlem Capital ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนในนิวยอร์ก เพื่อสนับสนุนการลงทุนกับบริษัท 1,000 แห่งที่มีผู้ก่อตั้งหลากหลายกลุ่มในอีก 20 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากสนับสนุนเงินทุนให้เจ้าของธุรกิจผิวสีแล้ว Harlem Capital ยังแบ่งปันความรู้ความชำนาญให้กับโครงการของ Apple โดยรวมที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสด้านเศรษฐกิจ โดยจะให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่นักเรียนที่ Detroit Developer Academy และผู้เข้าร่วม Entrepreneur Camp for Black Founders and Developers ของ Apple Apple ยังสนับสนุนโครงการฝึกงานของ Harlem Capital ที่มุ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสตรีและชนกลุ่มน้อย
นอกจากนี้ บริษัทยังลงทุน 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับ Siebert Williams Shank’s Clear Vision Impact Fund ซึ่งมอบเงินทุนให้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยเน้นบริษัทที่ชนกลุ่มน้อยเป็นเจ้าของ กองทุนมุ่งสนับสนุนธุรกิจที่ปฏิบัติงานหรือดำเนินการในตลาดที่ไม่ได้รับความสนใจอย่างเพียงพอ พร้อมส่งเสริมโครงการริเริ่มด้านการเติบโตที่ปราศจากการกีดกัน

ยกระดับองค์กรในชุมชน

Apple สนับสนุนวิทยาลัยชุมชน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และองค์กรท้องถิ่นที่ทำงานส่งเสริมและขยายโอกาสให้กับคนรุ่นต่อไปในฐานะพันธกิจส่วนหนึ่งของ REJI อย่างต่อเนื่อง
Apple สนับสนุนเงินทุนให้กับ The King Center องค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงเกียรติคุณของ Dr. Martin Luther King Jr. แบ่งปันคำสอน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ พร้อมสืบสานปณิธานของเขาต่อไปให้แล้วเสร็จ ในสัปดาห์หน้า Dr Bernice A. King ลูกสาวของ Dr. King และ CEO ของ The King Center จะออกประกาศกระตุ้นให้คนอายุน้อยออกมาเคลื่อนไหวเพื่อตอบแทนชุมชนในฐานะส่วนหนึ่งของซีรีส์ “Challenge for Change” ของ Apple ซึ่งประกอบด้วยคำแนะนำในรูปแบบของบนสนทนาและกิจกรรมท้าทายที่ขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้เป็นหลักเกี่ยวกับเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียม
การสนับสนุน The King Center ของ Apple นับเป็นหนึ่งในการบริจาคให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของบริษัทที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมและความยุติธรรม ซึ่งรวมถึงการบริจาคให้กับ Birmingham Civil Rights Institute และ Equal Justice Initiative ในมอนต์โกเมอรี่ แอละบามา
เงาสะท้อนในสระน้ำพร้อมคำพูดจาก Dr. Martin Luther King Jr. ที่ The King Center ในแอตแลนต้า จอร์เจีย
การสนับสนุน The King Center ของ Apple จะส่งเสริมการแบ่งปันคำสอนของ Dr. Martin Luther King Jr. และสร้างแรงบันดาลใจในการสานต่อปณิธานของเขาให้แล้วเสร็จแก่คนรุ่นใหม่ต่อไป
แชร์บทความ

รูปภาพของ Racial Equity and Justice Initiative ของ Apple

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com