สิงคโปร์กับ Apple ประสานความร่วมมือในการดำเนินโครงการด้านสุขภาพแห่งชาติโดยใช้ Apple Watch

คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย — วันนี้รัฐบาลสิงคโปร์และ Apple ประกาศความร่วมมือในการริเริ่มดำเนินโครงการด้านสุขภาพ LumiHealth โปรแกรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมกิจกรรมและพฤติกรรมการมีสุขภาพที่ดีโดยใช้ Apple Watch โปรแกรมรูปแบบใหม่นี้เป็นการออกแบบร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion Board) ของสิงคโปร์และ Apple เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินโครงการตามแผน Smart Nation ของประเทศ โดยแผนนี้เป็นความพยายามระดับชาติในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจาก LumiHealth จะสร้างขึ้นจากความร่วมมือระหว่างทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขแล้ว แอพนี้ยังใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมเพื่อส่งเสริมชาวสิงคโปร์ให้มีสุขภาพที่ดีและทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพผ่าน Apple Watch และ iPhone แอพ LumiHealth เป็นโปรแกรมระยะเวลาสองปีที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก พร้อมให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ใน App Store และจะเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2020 เป็นต้นไป

“แม้ว่าพวกเราทุกคนทั่วโลกจะกำลังฟันฝ่าอุปสรรคจาก COVID-19 อยู่ แต่เราต้องไม่หยุดลงทุนกับอนาคต และคงไม่มีการลงทุนไหนที่จะดีไปกว่าการลงทุนให้กับสุขภาพของเราเอง” Heng Swee Keat รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าว “ความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์และ Apple ในครั้งนี้จะช่วยให้ชาวสิงคโปร์เดินหน้าไปสู่การมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่ล้ำค่าต่อการพัฒนาสุขภาพของผู้คนทั่วโลก”

“สิงคโปร์มีระบบการดูแลสุขภาพในระดับแนวหน้าของโลก และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับสิงคโปร์ในการผสาน Apple Watch และ LumiHealth เข้ากับการดำเนินโครงการแบบองค์รวมเพื่อนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศ” Jeff Williams ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “Apple Watch ได้ช่วยเหลือลูกค้าของเรามาแล้วหลายล้านคนในการบริหารระดับกิจกรรมเพื่อสุขภาพ และเราพร้อมแล้วที่จะนำความเชี่ยวชาญของเรามาใช้ในความร่วมมือนี้ ผ่านรูปแบบที่มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของ Apple”

LumiHealth นำประโยชน์จากศักยภาพของ Apple Watch มาใช้เพื่อส่งเสริมและสร้างศักยภาพให้ชาวสิงคโปร์และพลเมืองมีลักษณะนิสัยที่ดีต่อสุขภาพผ่านการแจ้งเตือน โปรแกรม การฝึกสอนกิจกรรม และสิ่งจูงใจที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งภายในแอพ ผู้ใช้จะได้เดินทางสู่โลกต่าง ๆ ไปพร้อมกับนักสำรวจข้ามกาแล็กซีที่จะชี้นำผู้ใช้ให้ตะลุยภารกิจมากมายซึ่งปรับมาให้รับกับอายุ เพศ และน้ำหนักของเขา แอพจะมาพร้อมเป้าหมายรายสัปดาห์ ซึ่งนอกเหนือจากการเดินแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถว่ายน้ำ เล่นโยคะ และทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน LumiHealth ยังแจ้งเตือนผู้ใช้ให้เข้ารับการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนป้องกันโรค รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมดูแลสุขภาพที่มุ่งเน้นการปรับพฤติกรรมการนอนและฝึกสติ ตลอดจนส่งเสริมการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หากผู้ใช้บรรลุเป้าหมายและทำกิจกรรมเหล่านี้ได้สำเร็จ เขาจะสามารถช่วยให้เพื่อนนักสำรวจข้ามกาแล็กซีกลับบ้านได้สำเร็จ พร้อมรับรางวัลมูลค่าสูงสุด S$380 ตลอดสองปีของโปรแกรม โดยผู้ใช้จำเป็นต้องมี Apple Watch และดาวน์โหลดแอพ LumiHealth จาก App Store จึงจะสามารถเข้าร่วมการใช้งานได้

LumiHealth ถูกสร้างและออกแบบมาโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โปรแกรมนี้เป็นแบบสมัครใจ: ผู้ใช้งานต้องทำการสมัครและให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลกับ LumiHealth เมื่อเข้าร่วม และสามารถเลือกยุติได้ทุกเมื่อ แอพจะเก็บรวบรวมข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้เฉพาะที่จำเป็นสำหรับการมอบประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับตามความต้องการของผู้ใช้งานที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้งานจะถูกกำหนดรหัสเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บในระบบที่มีความปลอดภัยสูงตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของสิงคโปร์ จะไม่มีการขายหรือแชร์ข้อมูลใด ๆ ใน LumiHealth เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

LumiHealth เป็นผลงานสูงสุดของกระบวนการสองปีที่เริ่มจากการที่สิงคโปร์ได้เรียกร้องข้อเสนอจากบริษัทด้านเทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพระดับสากลต่าง ๆ ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชากร

Apple Watch เป็นนาฬิกาอันดับหนึ่งของโลก ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและปรับแต่งเครื่องมือและแอพต่าง ๆ กว่าหลายร้อยรายการได้บนข้อมือ โดยคุณสมบัติวงแหวนกิจกรรม การตรวจจับการล้ม และการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้เปลี่ยนวิธีการจัดการสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนไปโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ การศึกษาค้นคว้าใหม่ ๆ อย่าง Apple Heart Study ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถทราบข้อมูลสำคัญจากที่ผู้ใช้งานได้แชร์ เพื่อนำไปพัฒนาให้การดูแลสุขภาพก้าวหน้าต่อไปในอนาคต