อัพเดท
3 กันยายน 2563
Apple ขยายฐานการผลิตพลังงานหมุนเวียนในยุโรป
กังหันลมบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เดนมาร์กและการส่งเสริมด้านพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ที่เยอรมนีช่วยให้ Apple ก้าวไปสู่การบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอนใหม่ที่ตั้งเป้าไว้ภายในปี 2030
วันนี้ Apple ประกาศว่าจะลงทุนก่อสร้างกังหันลมบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดหมุนเวียนที่จะช่วยให้ซัพพลายเชนและผลิตภัณฑ์ของ Apple ก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนใกล้ขึ้นมาอีกก้าวหนึ่ง กังหันลมสูง 200 เมตรที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเอสบีเยร์ของเดนมาร์กนี้คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ 62 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายไฟให้บ้านเกือบ 20,000 หลัง และยังทำหน้าที่เป็นสถานที่ทดสอบกังหันลมนอกชายฝั่งที่ทรงพลังอีกด้วย พลังงานที่ผลิตจากเอสบีเยร์จะส่งไปหล่อเลี้ยงศูนย์ข้อมูลของ Apple ที่วีบอร์ก โดยที่พลังงานส่วนเกินทั้งหมดนั้นจะถูกส่งต่อเข้าสู่กริดไฟฟ้าของเดนมาร์ก
“เราจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและใช้ความร่วมมือกันในระดับสากลเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และศูนย์ข้อมูลวีบอร์กก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเราสามารถก้าวข้ามปัญหาแห่งยุคนี้ไปได้” Lisa Jackson รองประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อม นโยบาย และโครงการริเริ่มทางสังคมของ Apple กล่าว “การลงทุนในพลังงานสะอาดเสริมสร้างนวัตกรรมล้ำสมัยที่มอบพลังงานสะอาดและสร้างงานสร้างอาชีพให้กับธุรกิจและชุมชนในท้องถิ่น นี่คือสิ่งที่เราต้องมุ่งเน้น เพื่อประโยชน์ของโลกใบนี้และคนรุ่นต่อไป”
ในเดือนที่ผ่านมา Apple ประกาศเรื่องแผนที่จะเป็นบริษัทที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซัพพลายเชนการผลิต และตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ให้ได้ภายในปี 2030 แม้ว่าในตอนนี้การดำเนินงานต่างๆ ของ Apple ได้ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และมีความเป็นกลางทางคาร์บอนอยู่แล้ว แต่เป้าหมายใหม่ที่ตั้งเป้าไว้ภายในปี 2030 นี้จะเป็นการยืนยันว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นของ Apple ที่วางจำหน่ายจะต้องส่งผลกระทบเป็นศูนย์ต่อสภาพอากาศ เป้าหมายนี้ยังรวมถึงการปฏิรูปให้ซัพพลายเออร์ในยุโรปทั้งหมดเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนด้วย
ความก้าวหน้าด้านพลังงานสะอาดของซัพพลายเออร์
Varta ซัพพลายเออร์ในเยอรมนีมุ่งมั่นที่จะดำเนินการผลิตให้กับ Apple ด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% ในสัปดาห์นี้ ซัพพลายเออร์ของ Apple ทั่วยุโรปซึ่งประกอบด้วย Henkel และ tesa SE ในเยอรมนี, DSM Engineering Materials ในเนเธอร์แลนด์, STMicroelectronics ในสวิตเซอร์แลนด์และ Solvay ในเบลเยียมกำลังมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดสำหรับการผลิตให้กับ Apple โซลูชั่นเหล่านี้รวมถึงสัญญาซื้อขายพลังงานลมของ DSM ในเนเธอร์แลนด์และที่จอดรถพลังงานแสงอาทิตย์ของ STMicroelectronics ในโมร็อกโก บริษัทอย่าง Solvay กำลังขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนไปสู่การดำเนินงานที่กว้างขึ้น หลังจากเข้าร่วมโครงการพลังงานสะอาดของซัพพลายเออร์ของ Apple เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
Apple เริ่มโครงการนี้ในเดือนตุลาคม 2015 เพื่อช่วยซัพพลายเออร์ลดการใช้พลังงานและเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ตั้งแต่เราเริ่มโครงการ มีพาร์ทเนอร์ด้านการผลิตถึง 72 รายใน 17 ประเทศที่มุ่งมั่นในการใช้พลังงานสะอาด 100% สำหรับการผลิตให้กับ Apple หากโครงการซัพพลายเออร์ของ Apple ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ เราจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 14.3 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนน 3 ล้านคันในแต่ละปี
ศูนย์ข้อมูลวีบอร์ก
ศูนย์ข้อมูลของ Apple ที่วีบอร์กซึ่งมีพื้นที่ 45,000 ตารางเมตรได้เปิดให้บริการแล้วตอนนี้ และให้การสนับสนุนด้านเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูลแก่ผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาค ศูนย์ข้อมูลนี้ช่วยขับเคลื่อน App Store, Apple Music, iMessage, Siri และบริการอื่นๆ ของ Apple ในยุโรปโดยใช้เพียงแค่พลังงานหมุนเวียนจากโครงการในท้องถิ่นเท่านั้น
โครงการพลังงานลมที่เอสบีเยร์เป็นการสานต่อแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวียที่ทิสเตอด์ในทางเหนือของจัตแลนด์ที่สร้างเสร็จเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของเดนมาร์กที่สร้างขึ้นโดยไม่ใช้เงินอุดหนุนสาธารณะ ทั้งโครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ล้วนให้การสนับสนุนศูนย์ข้อมูลของ Apple ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ที่วีบอร์กซึ่งใช้พลังงานหมุนเวียน 100% Apple กำลังพัฒนาทั้งสองโครงการร่วมกับ European Energy อย่างไม่หยุดยั้ง
ศูนย์ข้อมูลวีบอร์กใช้ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 600 คนในแต่ละวันในระหว่างการก่อสร้าง และมีธุรกิจในเดนมาร์กจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนด้านการพัฒนา ปัจจุบันนี้ศูนย์ข้อมูลดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล ช่างเทคนิค ทีมบำรุงรักษา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นการจ้างงานภายในท้องถิ่นแทบทั้งหมด
แชร์บทความ
รูปภาพศูนย์ข้อมูลวีบอร์ก